Tag: TRADING MINDSET
-
ปัญหาสุดคลาสสิคในการเทรด
– บทความ ปัญหาสุดคลาสสิคในการเทรด โดย Pradeep Bonde – วันนี้ผมนำบทความของเทรดเดอร์มือเก๋าและโค้ชที่ฝึกเทรดเดอร์มามากมาย เกี่ยวกับปัญหาที่คนส่วนใหญ่เป็นกันจนมันเป็นปัญหาสุดคลาสสิคเลย จะเป็นปัญหาอะไรและแก้ไขอย่างไร ลองอ่านกันดูนะครับ บทความสั้นๆ ครับ “You can trade anything but not everything” ถ้าหากคุณอยากพัฒนาทักษะการเทรด สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ โฟกัสวิธีการเทรดให้แคบลง คุณควรเทรดแค่เพียงเซ็ทอัพเดียวหรืออย่างมากที่สุดเพียง 3 เซ็ทอัพ ยิ่งคุณมีเซ็ทอัพในการเทรดมากเท่าไหร่ คุณยิ่งจะจัดการมันได้ยากขึ้นเท่านั้น ทั้งเรื่องของการแสกนหาเซ็ทอัพ การวิเคราะห์ การเลือกและการจัดการเทรด มันยิ่งเป็นงานที่หินขึ้นตามเซ็ทอัพที่คุณมี ปัญหาสุดคลาสสิคที่คนทั่วไปทำได้แย่มากในตลาด คือพวกเขาไม่สามารถโฟกัสในเซ็ทอัพใดเซ็ทอัพหนึ่งได้ เมื่อไหร่ที่คุณสามารถกำจัดเซ็ทอัพที่มีอยู่เยอะแยะและโฟกัสแค่เพียง 1 หรือ 2 เซ็ทอัพ คุณจะพบกับความจริงได้อย่างรวดเร็ว คุณจะเริ่มเชี่ยวชาญในเซ็ทอัพของคุณ และเริ่มปรับรายละเอียดต่างๆ ในเซ็ทอัพนั้นให้ดียิ่งขึ้น ทุกๆ งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาความเชี่ยวชาญบ่งบอกว่าการโฟกัสสิ่งต่างๆ ให้แคบลงคือวิธีการที่ดีสุดในการพัฒนาความเชี่ยวชาญในทุกแขนง มันทำให้คุณสามารถพัฒนาทักษะที่เฉพาะและจำเป็นต่อความเชี่ยวชาญนั้นๆ ดังนั้นในทุกสัปดาห์คุณควรที่จะคิดเรื่องการจำกัดการฝึกในเซ็ทอัพให้แคบลง และกำจัดอะไรที่มันไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณออกไป ทำไมเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ถึงไม่สามารถอยู่กับเซ็ทอัพใดเซ็ทอัพหนึ่งได้นาน หรือเทรดหลายๆ วิธีการ ? นั่นเพราะว่าพวกเขาขาดความเชื่อมั่นและเชี่ยวชาญในวิธีการเทรด หรือคิดว่าคนอื่นๆ…
-
A Guide to Super Performance บทสัมภาษณ์ของสุดยอดนักลงทุน ตอนที่ 3
ตอนที่ 3 DR. MATTHEW CARUS Interview by Capitalise มาต่อกันกับบทสัมภาษณ์สุดยอดนักลงทุนตอนที่ 3 ครับ ผมเอาบทสัมภาษณ์ของคุณ Matthew Caruso นักลงทุนที่เพิ่งแจ้งเกิดไม่นานจากเวทีการแข่งขัน U.S. investing championship ครับ เขาคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่ทำลายสถิติผลตอบแทนสูงสุดในการแข่งขันรายการนี้ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 จนทำผลตอบแทนตอนจบการแข่งขันไปได้ 346% และคว้าอันดับที่ 4 ในการแข่งขันไป (ช่วง 9 เดือนแรกแกอยู่อันดับ 1 แล้วถูกแซงในไตรมาสสุดท้าย) ผมมีโอกาสได้เรียนในคลาส online ของแก “The Active Growth Investor” แล้วชอบมากก็เลยค่อนข้างติดตามทุกงานที่แกไปสัมภาษณ์ วันนี้ผมเอาบทสัมภาษณ์ของแกกับ Capitalise ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์มาก ลองอ่านกันดูนะครับไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ สวัสดีครับคุณ Matt สำหรับผู้อ่านทุกคน คุณช่วยแนะนำตัวเองซักเล็กน้อยได้มั้ยครับ แน่นอนครับ ผมมีความสนใจในตลาดหุ้นมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อของผมเคยอนุญาติให้ผมเทรดในพอร์ตของเขาในตอนที่ผมยังเด็กมากและยังไม่สามารถเปิดพอร๋ตได้ ผมโชคดีที่เมื่อผมจบจากชั้นมหาวิทยาลัยงานแรกของผมคือการเป็น market maker ผมทำงานที่นั่นซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดา…
-
หนทางรอดในช่วงที่เราขาดทุนหนัก
ช่วงนี้แอดมินกำลังอินกับเรื่องของ การเทรดอย่างมีสติครับ (Mindful Trading) วันนี้ก็เลยสรุปสัมมนาของ Gary Dayton โค้ชจิตวิทยาการเทรดชื่อดังและผู้เขียนหนังสือ Trade Mindfully เกี่ยวกับเรื่องของการฟื้นฟูตัวเองจากการขาดทุนมาฝากครับ ซึ่งน่าจะเหมาะกับช่วงนี้ที่ตลาดค่อนข้างผันผวนและผ่านจากวิกฤตในตลาดหุ้นมาไม่นาน หวังว่าบทความนี้จะช่วยหลายๆ คนได้ ลองอ่านกันดูนะครับ การขาดทุนหนักมันทำลายเราไม่ใช่แค่เพียงเรื่องทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ทำลายสภาพจิตใจของเราด้วย วิธีการที่เราตอบสนองต่อการขาดทุนนั้นสำคัญกว่าเรื่องของการขาดทุน นักลงทุนที่ขาดประสบการณ์มักจะถูกชักนำโดยอารมณ์ของพวกเขาหลังจากที่พบกับการขาดทุนอย่างหนัก บางคนพยายามฝืนเทรดต่อไปทั้งๆ ที่เจ็บปวดซึ่งส่วนใหญ่มักจะจบด้วยความเสียหายที่มากกว่าเดิม บางคนอาจถอนตัวจากการเทรด เก็บเรื่องราวใส่ลิ้นชัก หลีกเลี่ยงที่จะคิดถึงมันและหลงลืมมันไป บางคนก้มหน้าก้มตาและพยายามที่จะเทรดให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเอาเงินที่ขาดทุนคืน ซึ่งการตอบสนองในรูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นไม่มีแบบไหนเลยที่เป็นการตอบสนองที่ดี ชีวิตการเทรดของพวกเขาอาจจะถูกทำลายได้ หากไม่เรียนรู้เกี่ยวกับการรับมือการขาดทุน การตัดสินใจเทรดในครั้งถัดๆ ไปจะเต็มไปด้วยอารมณ์ซึ่งทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่แน่นอน เช่น พวกเขาอาจจะทำกำไรเร็วเกินไป บางคนอาจจะเทรดถี่ขึ้น บางคนอยู่กับการเทรดที่ตัวเองไม่ได้กำไรนานเกินไปเพื่อหวังให้มันกลับมาเท่าทุน ซึ่งเรื่องต่างๆ ที่กล่าวมามักจะเกิดจากการกลัวความล้มเหลวหรือการขาดทุน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จกับเทรดเดอร์ที่ล้มเหลว คือวิธีการรับมือกับการขาดทุน เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมองการขาดทุนเป็นเหมือนกับโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาการเทรดของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น การกลับมาจากการขาดทุนหนักเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่ความสำเร็จไม่เคยประสบผลหากเราหนี หลีกเลี่ยง และเพิกเฉยต่อการขาดทุน การขาดทุนโดยเฉพาะการขาดทุนอย่างหนักเป็นบทเรียนและโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งกว่าเดิม และนี่คือเจ็ดขั้นตอนการรับมือกับการขาดทุนของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จเพื่อทำให้พวกเขามีจิตใจและวินัยที่มากขึ้น 1. รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณเป็นคนที่ทำการเทรดและทำให้ตัวเองขาดทุน ฉะนั้นอย่าพยายามปัดความรับผิดชอบ หรือไปกล่าวโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุทำให้เราขาดทุน 2. หยุดการเทรด คุณต้องหยุดพักเพื่อมาดูว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นกับการเทรดของคุณ จากนั้นให้ทำการประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นโดยการทบทวนแต่ละเหตุการณ์อย่างละเอียดว่าส่วนไหนที่คุณทำผิดพลาด…
-
การจัดการความเครียดของอาชีพเทรดเดอร์
– การจัดการความเครียดของอาชีพเทรดเดอร์ โดย Humble Trader Diary – จากเหตุการณ์ที่ตลาดตกค่อนข้างแรง คิดว่าน่าจะมีหลายคนเครียดกับการลงทุนหรือการเทรด หวังว่าบทความนี้จะช่วยพวกคุณได้บ้างนะครับ “กุญแจสำคัญของการเทรดให้ประสบความสำเร็จ คือการมีความสงบนิ่งและวินัยในการเทรดแม้ว่าคุณกำลังจะเผชิญกับความเครียด” – Paul Tudor Jones, Market Wizard – ที่ผ่านมาผมคิดว่าเป็นปีที่นักลงทุนหรือคนที่เทรดค่อนข้างจะ “เครียด” กว่าในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงหลังโควิดที่ผมตอบแทนในหลายๆ ตลาดค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะหุ้นต่างประเทศเมกา จีน เวียดนาม ตลาดเหรียญรวมถึงตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน แต่พอมาในช่วงปี 2022 หลายๆ ตลาดค่อนข้างจะพัง ตลาดที่กล่าวมาทั้งหมดค่อนข้างจะเจอกับความผันผวนและลงกันอย่างหนักจากพิษของสงครามและการขึ้นดอกเบี้ย ตลาดไทยปีที่แล้วไม่ลงแต่ก็ไม่ได้เป็นปีที่ง่าย ด้วยความที่ปกติเป็นคนที่ตอบ inbox ในเพจค่อนข้างจะบ่อยก็เลยได้พอรู้เรื่องราวของหลายๆ คนที่ปีที่แล้วค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่สดใสไม่เหมือนที่คิดไว้ จนเกิดอาการเครียดสะสม วันนี้ก็เลยอยากจะเขียนเรื่องนี้ครับ ความเครียดในการเทรด และวิธีจัดการความเครียดในแบบของตัวผมเอง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านครับ อุตสาหกรรมของการลงทุนและการเทรดค่อนข้างจะเป็นที่ที่มีความเครียดที่สูงครับ ซึ่งมีอยู่หลายปัจจัยเลยที่ทำให้คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เกิดความเครียด ยกตัวอย่างเช่น 1. ความผันผวนของตลาดทุน ด้วยความที่ธรรมชาติของตลาดทุนนั้น มีการขึ้นและลงหรือที่เราเรียกว่าความผันผวนจากปัจจัย 108 ที่มันไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดเกิดความผันผวนอย่างหนักจากปัจจัยสำคัญต่างๆ เช่น จากนโยบายทางการเงิน การเมือง…
-
แพ้บ้างก็ได้
– แพ้บ้างก็ได้ โดย Humble Trader Diary – ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมตลาดประเทศไทยเริ่มตกหนัก ผมทักพี่คนหนึ่งไปด้วยความเป็นห่วง ซึ่งพี่คนนี้ถือเป็นครูทางด้านการลงทุนของผมเลย แกเข้าตลาดมาตั้งแต่ก่อน hamburger crisis แล้วประสบความสำเร็จอย่างมากจนถึงปัจจุบัน ผมทักแกไปเพราะความเป็นห่วงเนื่องจากแกเป็น investor ที่ไม่ได้ปรับสถานะเร็วมากนักและด้วยขนาดพอร์ตของแกที่มันไม่ง่ายนักที่จะขายสถานะได้ในราคาที่ต้องการ ผมทักแกไปว่า “มาสเตอร์ เป็นไงบ้างครับ ยังโอเคมั้ยครับ” แกก็ตอบกลับมาว่า “ยับเลยครับ.. ไทยตอนนี้ ytd -10 กว่า% …” แล้วเราก็คุยกันต่อซักระยะตามภาษา ซึ่งจากความคิดส่วนตัวของผม ผมรู้สึกว่าด้วยสไตล์ของแก กับ situation ที่มันเกิดในตลาด ผมว่าแกอย่างเก่งเลย ซึ่งไม่นานผมว่าแกก็คงกลับมาได้ไม่ยาก ด้วยสภาพตลาดที่หุ้นราคาถูกลง หาหุ้นได้ง่ายขึ้น เพราะแกเป็น stock picker ที่เก่งมากๆ ในประเทศไทย และที่แกพอร์ตลดลงปีนี้นั้นมันไม่ใช่การขาดทุนที่เกิดจากการคัทหรืออะไรมากเท่าไหร่นัก โดยส่วนใหญ่เกิดจากที่หลายตัวถือลงทุนมาซักระยะตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วมันลงมาในปีนี้ พูดง่ายๆ ก็คือคืนกำไรกลับมาซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องปกติของคนที่เป็น investor อยู่แล้วครับ สิ่งที่ผมมองเห็นอย่างชัดเจนในพี่คนนี้ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาคือ แกแพ้เป็น และกล้ายอมรับมันอย่างบริสุทธิ์ใจ รวมถึงแกก็พร้อมพัฒนาตลอดเช่นกัน โดยปกติเราจะชอบคุยกันเรื่องการแก้ปัญหาในเกมของเราอยู่ตลอด…
-
กับดักความอยากรวย
– กับดักความอยากรวย โดย Justin Paolini – วันนี้เอาบทความของคุณ Paolini โค้ชเทรดเดอร์ค่าเงินสัญชาติอิตาลี และตัวผมเป็นแฟนคลับงานเขียนของเขาครับ บทความนี้เขียวเกี่ยวกับปัญหาที่ตัวผมเจอในตอนเริ่มต้นของการเทรด นั่นคือเรื่องของการคิดถึงเรื่องผลลัพธ์มากเกินไป จริงๆ ถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ช่วงที่เทรดใหม่ๆ คงไม่ต้องงมเกี่ยวกับการเทรดนานอย่างที่เป็นอยู่ คิดว่ามีประโยชน์ครับโดยเฉพาะกับมือใหม่ที่เข้ามาเทรดไม่นาน บทความไม่ยาวมาก ลองอ่านกันดูนะครับ “ถ้าหากอยากประสบความสำเร็จในการเทรด คุณจำเป็นจะต้องฆ่าความสัมพันธ์” – Van Tharp – ทำไมคุณถึงเข้ามาสนใจในเรื่องการเทรด ? มันเป็นเพราะคุณหลงใหลในเรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาคหรือตลาดการเงินรึเปล่า หรือคุณสนใจมันเพราะเหตุผลอย่างเดียวเลย คือ คุณอยากรวย ? มันไม่ได้น่าแปลกใจเลยที่คนส่วนใหญ่หันมาเทรดเพราะพวกเขาเหนื่อยล้ากับการทำงานประจำและต้องการวิธีหาเงินที่ง่ายกว่า หรือบางทีพวกเขาอยากที่จะเทรดเพิ่มรายได้ระหว่างที่ทำงานประจำไปด้วยเพื่อพวกเขาจะได้เกษียนก่อนวัยบนเกาะหรูๆ แห่งหนึ่ง เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมามีจุดร่วมกันเพียงสิ่งเดียวเลยคือ เงิน คือ เป้าหมายหลักที่พวกเขาต้องการ ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า สาเหตุหลักที่คนล้มเหลวในตลาดหุ้น คือพวกเขาโฟกัสแต่เรื่องเงินนี่แหละ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ยิ่งคุณจดจ่อกับเป้าหมายทางด้านตัวเงินมากเท่าไหร่ เงินจะยิ่งถอยห่างจากคุณมากเท่านั้น เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดที่ผมรู้จักเขามักมีคุณสมบัติเหล่านี้ เงินนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้จากความพยายามของพวกเขาเท่านั้น Greed is not good มีสุภาษิตโบราณหนึ่งที่ถูกพูดในวงการมาอย่างยาวนานบอกไว้ว่า “90% ของเทรดเดอร์ทั้งหมดจะขาดทุน 90% ภายใน…
-
ความหวังคือที่พักพิงสุดท้ายของคนไม่เตรียมตัว
– ความหวังคือที่พักพิงสุดท้ายของคนไม่เตรียมตัว โดย Humble Trader Diary – “พี่หวังว่าหุ้นที่พี่มีจะเด้งกลับไปเท่าเดิม” คำพูดนี้เป็นประโยคที่คนในงานสัมมนาคนนึงพูดกับผมไว้เมื่อต้นปี หุ้นที่พี่เขาถือไว้เมื่อปลายปี 2560 ขาดทุนกว่า 60% โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาในเร็ววัน “ความหวัง” ในด้านของการใช้ชีวิต “ความหวัง” คือคำที่ไว้ใช้ให้กำลังใจคนอื่นหรือตัวเราให้เดินหน้าต่ออย่างไม่ท้อถอย หรือใช้ในทางศาสนาเพื่อให้เราศรัทธาในอะไรซักอย่างหนึ่ง เวลาที่เราลงทุนแล้วหุ้นที่เราซื้อไปมันร่วงลงไปต่ำกว่าจุดที่เราซื้อ จุดตัดขาดทุนที่เราคิดว่าจะตัดขาดทุนใกล้เข้ามาทุกที เวลาผ่านไปมันร่วงไปถึงจุดนั้น แต่เราดันไม่ทำตามที่เราคิดไว้ตอนแรก ตัวเราเริ่มหาเหตุผลต่างๆนาๆมาเพื่อสนับสนุนตัวเองว่าทำไมเราไม่ควรขายมันออกมาทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมี จนมันดิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆ หลุดแนวรับที่ 2, 3 และ4 จนสุดท้ายมันไม่เหลือเหตุผลอะไรที่จะถือต่อ ยกเว้นอย่างเดียวคือ “ความหวัง” “ความหวัง” เป็นเพียงคำนามธรรมคำหนึ่งเช่นเดียวกับ “ความคิดเห็น” และ “ความรู้สึก” ไม่เหมือนกับราคาและปริมาณซื้อขายหรืองบการเงินที่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม ในด้านของการเทรด “ความหวัง” เป็นเพียงแค่คำคำหนึ่งที่เอาไว้ให้ใจเราได้พักพิงยามที่พอร์ตการลงทุนของเราเสียหายเท่านั้น ถ้าคุณพบว่าทุกวันนี้คุณเทรดอยู่บน “ความหวัง” นั่นแสดงว่าคุณยังเตรียมตัวมาไม่มากพอ สิ่งที่คุณขาดคือแผนการที่ดีและวินัยที่จะทำตามในสิ่งที่คุณวางไว้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในด้านนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ เอาคำว่า “ความหวัง” ออกจากพจนานุกรมของคุณซะ และเตรียมตัว เตรียมตัวให้พร้อมกับทุกการเคลื่อนไหวที่สามารถเกิดขึ้นในตลาด เตรียมตัวให้กับหุ้นทุกตัวที่คุณมีและตัวที่คุณพร้อมจะเข้าไปซื้อขาย เตรียมตัวให้กับผลกำไรที่งอกเงยและผลขาดทุนที่มันกำลังจะเกิด เตรียมตัวที่จะตัดสินใจบนความไม่นอนและรับผลลัพธ์ที่่จะเกิดไม่ว่าจะร้ายหรือจะดี…