Author: admin
-
แนะนำหนังสือจิตวิทยาการเทรดและการลงทุน
– Book Recommendations by Humble Trader Diary – 1.THE MENTAL GAME OF TRADING : A System for Solving Problems with Greed, Fear, Anger, Confidence, and Discipline ผู้เขียน Jared Tendler เจ้าของหนังสือขายดีอย่าง The Mental Game of Poker และโค้ชของ world champion poker players อย่าง Jared Tendler ได้เข้ามาในอุตสกรรมการเงินและการเทรด และเขียนเกี่ยวกับหนังสือจิตวิทยาการเทรดขึ้นมาครับโดยส่วนตัวชอบหนังสือเล่มนี้มากครับ ซึ่งเล่มนี้จะเจาะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางจิตวิทยาที่เราต้องเจอในการเทรดอย่างเป็นระบบ ทั้งความโลภ ความกลัว ความตื่นเต้น ความมั่นใจเกินไป การขาดวินัย โดยจะบอกต้นเหตุของปัญหาทางอารมณ์ และวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนให้เรา พร้อมเทคนิคอย่าง the…
-
10 หนังสือที่ควรมีสำหรับนักลงทุนมือใหม่
– Book Recommendations by Humble Trader Diary – มีคนเข้ามาถามเกี่ยวกับหนังสือครับ เขาถามมาว่า “ผมเพิ่งเข้ามาในตลาดปีที่ผ่านมา ผมขอรวบแบบเอา 10 เล่มพอ พี่แนะเล่มไหนบ้างจะไปไล่อ่าน” หนังสือที่ผมแนะนำ 5 เล่มแรก จะเป็นหนังสือ “ประสบการณ์” ของผู้ที่ประสบความสำเร็จในตลาด ส่วน 5 เล่มหลังจะทำให้อาชีพนี้ของคุณง่ายขึ้น สำหรับ List หนังสือทั้ง 10 เล่มมีดังนี้ครับ ประมาณนี้ครับ 10 เล่มสำหรับคนที่เข้ามาไม่นานหรือถ้าใครจะอ่านหนังสือเล่มสั้นแบบฟรีๆ ของตัวผมก็มี Ebook 2 เล่มนี้ครับ สุดท้ายแล้ว อ่านอย่างเดียวไม่ได้นะครับ ตลาดหุ้นไม่ได้ให้รางวัลกับนักอ่าน แต่ให้เงินกับนักปฏิบัติที่มีวินัยนะครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ
-
หนังสือหุ้นแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่
– Book Recommendations by Humble Trader Diary – มีคนในเพจท่านนึง inbox เข้ามาถามเกี่ยวกับหนังสือหุ้นสำหรับคนเล่นหุ้นเบื้องต้นนะครับ วันนี้ก็เลยเอาเรื่องนี้มาเขียนแนะนำทำเป็นบทความเลย เอาเฉพาะที่ผมอ่านแล้วคิดว่า ง่ายสามารถอ่านได้เลยไม่ต้องใช้ประสบการณ์มาก + อ่านแล้วคิดว่าไม่เสียเวลาแล้วได้อะไรดีดีกลับไป + ผู้เขียนไม่ไก่กา ลองไปดูกันว่ามีเล่มอะไรที่ผมแนะนำบ้างครับ 1.THE MARKET WIZARDS SERIES ผู้เขียน Jack D. Schwager สุดยอดชุดหนังสือ MUST READ ที่ผมแนะนำให้อ่านเป็นลำดับแรก หนังสือที่รวมบทสัมภาษณ์ของ Trader และ Hedge fund manager หรือ เหล่าพ่อมดตลาดทุนที่ประสบความสำเร็จระดับสูงสุดในตลาดตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้อ่านจะได้จากหนังสือเล่มนี้ คือแง่คิดของเทรดเดอร์แต่ละคน, เบื้องหลังความสำเร็จ, จุดเริ่มต้นที่เขาเข้ามาสู่ตลาด, กลยุทธ์ที่เขาใช้ในการเทรด, สินค้าที่เขาถนัด, การพัฒนาให้เราเป็นคนที่เก่งขึ้นได้อย่างไร ฯลฯ แล้วที่สำคัญคือสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงท่านเดียว แต่หนังสือชุดนี้นำมาให้ท่านอ่าน 40-50 ท่าน ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าท่านได้อ่าน ท่านน่าจะได้อะไรกลับไปหลังจากอ่านจบ…
-
บทเรียนจาก Nicolas Darvas เพราะวิธีของผมคือวิธีที่ตลาดหุ้นทำงาน
บทเรียนจาก Nicolas Darvas เพราะวิธีของผมคือวิธีที่ตลาดหุ้นทำงาน บทความนี้เป็นบทความแปลที่มาจากบางส่วนของ Interview คุณ นิโคลัส ดาร์วาส หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดของตลาดวอลล์สตรีทในช่วงปี 1950 และเจ้าของหนังสือ How I Made $2,000,000 in the Stock Market บทความนี้สัมภาษณ์ในช่วงก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไม่นาน คิดว่ามีประโยชน์ต่อผู้อ่านก็เลยนำมาแปลบางส่วนครับ ผู้สัมภาษณ์: คุณดาร์วาส คุณคิดว่าทัศนคติของคุณช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นมั้ยครับ ? ND: ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมไม่เคยเศร้าตอนที่ผมขาดทุน เมื่อระบบการลงทุนของผมสั่งให้ทำผมไม่เคยเซ็งเลยที่ต้องขายหุ้นที่ผมชนะแล้วออกจากตลาดไปแม้มันจะเป็นเวลาหลายเดือน ผมไม่เคยตื้นเต้นหรือกระวนกระวายเลยในการถือหุ้นที่ผมชนะ เมื่อมองกลับไปผมก็ค่อนข้างประหลาดใจเหมือนกันว่าผมทำเงินจาก $25,000 ไป $2,000,000 แล้วยังรู้สึกสงบได้ยังไง นี่แหละคือผมหละ หลักจากที่ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงปลาย 1950 ผมแบ่งกำไรบางส่วนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ผมแค่รู้สึกว่ามันต้องเห็นอะไรเป็นตัวเป็นตนหน่อยถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ หลังจากความสำเร็จรอบนั้นผมรู้สึกว่าผมแค่ต้องเข้าไปร่วมเกมแค่นั้น ถ้าผมทำตามกฎผมจะได้ตัง ถ้าผมแหกกฎผมจะเสียตัง ความท้าทายของผมคือทำตามกฎของเกมให้ได้เท่านั้น ผู้สัมภาษณ์: แบบนี้แสดงว่าคุณก็ยังเทรดพลาดใช่มั้ยครับ ND: แน่นอน มันยากนะที่จะไม่ลองหรือทำอะไรชุ่ยๆบ้าง ถึงแม้ว่าคุณจะมีวิธีในการทำเงินแล้ว ในบ้างครั้งผมก็แหกกฎแล้วก็เสียตัง แต่ทุกวันนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วนะ ผู้สัมภาษณ์: ตลาดเปลี่ยนไปบ้างมั้ยครับ?…
-
บทเรียนจาก Joe Fahmy ได้เวลาถือเงินสด?
บทความนี้ผมขอแปลหนึ่งในบทความที่ผมชอบมากๆ ของเทรดเดอร์ต้นแบบอย่างคุณ Joe Fahmy โดยต้นฉบับถูกเขียนขึ้นในช่วงปี 2016 ที่ตลาดอเมริกาเกิดการปรับฐานซึ่งน่าจะเหมาะกับสถานการณ์ของตลาดบ้านเราในช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้เวลาถือเงินสด? ผมได้รับอีเมล์มากมายตลอดช่วงสุดสัปดาห์จากคนที่ดิ้นรนและตื่นตระหนกกับตลาดหุ้น นี่ไม่ใช่เหตุการณ์วันสิ้นโลก นี่เป็นเพียงแค่ตลาดปรับฐานเท่านั้นเอง ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่เกี่ยวกับการลงทุนของพวกเขาคือ เราควรทิ้งมันไว้ไม่ต้องทำอะไร หรือว่าเราควรขายออกมาบ้างแล้วถือเงินสด ความเป็นจริงคนเราก็อยากจะได้ประโยชน์จากทั้งสองทางนั่นแหละและมันไม่อยู่บนพื้นฐานความจริงเลย อีกนัยหนึ่งคือเมื่อตลาดส่วนใหญ่เป็นขาขึ้น (อย่างในช่วงปี 2013-2015) ทุกคนหวังว่าเราจะลงทุนอย่างเต็มที่และปล่อยให้หุ้นมันวิ่งขึ้นไป และเมื่อตลาดเกิดการปรับฐาน (อย่างเช่นที่เกิดอยู่ในตอนนี้) ทุกคนก็หวังว่าพวกเขาจะโปรแอคทีฟมากขึ้นและลดจำนวนการถือหุ้นก่อนที่หุ้นจะลง คำตอบของผมคือ ตลาดหุ้นจะแข็งแรงสองถึงสามครั้งต่อปี เมื่อตลาดแข็งแรงผมจะซื้อหุ้นเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งมีศักยภาพจะทำให้ราคาไปได้ไกล เมื่อตลาดอ่อนแอ ผมจะลดจำนวนการถือหุ้นแล้วตั้งรับ นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของปรัชญานี้ ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามันไม่สามารถทำได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากทุ่มเทเวลาและความพยายาม ยิ่งกว่านั้นผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจมากพอในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่และไม่อยากตัดสินใจอะไรด้วยความกลัว ในตอนนี้ลูกค้าของผมถือเงินสด 100% พวกเราถือเงินสดมากกว่า 90% ตั้งแต่ต้นปี โดยปกติแล้วผมไม่ชอบแชร์ระดับการลุงทุนของผมต่อสาธารณะเนื่องจาก 1. ผมไม่ต้องการให้ใครทำตามอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า 2. ผมสนับสนุนให้คนคิดด้วยตัวของพวกเขาเอง และ 3. ผมสามารถปรับระดับการลงทุนได้เร็วมากๆ อย่างที่คุณ Stanley Druckenmiller ได้กล่าวไว้ “หนึ่งในทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือผมสามารถเปลี่ยนความคิดของผมได้อย่างรวดเร็ว” กล่าวคือ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ผมไม่มีปัญหาเลยที่จะตัดสินใจและกลับไปซื้อหุ้น ความลังเลและการนั่งอยู่ข้างสนามเป็นปีๆ ไม่เคยอยู่ในความคิดของผม กลยุทธ์นี้ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน…
-
หาหุ้นแบบนกอินทรีอย่างคุณ Michael Lamothe
บทความนี้ผมสรุปการเลือกหุ้นและวิธีเทรดของสาย Techno-fundamental trading มาฝากครับ ระบบนี้มีชื่อว่า “EAGLE” หรือ “การเทรดแบบนกอินทรี” ของคุณ Michael Lamothe ครับ คุณไมค์เทรดในตลาดหุ้นมามากกว่า 20 ปี รวมถึงเป็นโค้ชให้กับเทรดเดอร์มาแล้วมากกว่าหนึ่งพันคน เริ่มแรกผมเริ่มตามงานของคุณไมค์เพราะหลายปีก่อนได้ไปลงสัมมนาออนไลน์ในกลุ่ม NYC Meetup แล้วแกพูดดีมาก จนได้ตามงานแกเรื่อยๆ แกไปออกรายการเทรดหลายรายการ รวมถึง podcast ที่คุณไมค์ทำในตอนนี้ก็มีประโยชน์มากๆครับ เขาได้รับอิทธิพลจากเทรดเดอร์ 4 ท่าน คือคุณ O’Neil, Minervini, Darvas, Livermore และโค้ชเทรดเดอร์ระดับโลกอย่างคุณ Van Tharp ครับ ฉะนั้นวิธีการก็จะคล้ายๆ กับเหล่าตำนานหน่อย แต่รายละเอียดปลีกย่อยก็จะมีจุดที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง สไตล์การเทรดหลักของแกจะเป็นการเทรดที่ผสมระหว่าง Day Trading และ Swing Trading ในหุ้นที่แกร่งกว่าตลาดครับ โดยแกจะมีส่วนที่นำหลักการของหุ้นแกร่งกว่าตลาดไปใช้ในการ Day-trade ใน Timeframe ย่อยเพื่อหากระแสเงินสดร่วมกับการลด Drawdown ของระบบรวมถึงเล่น Swing-Trade…
-
ท่าไม้ตายกับการเทรดหุ้น
– ท่าไม้ตายกับการเทรดหุ้น โดย Humble Trader Diary – บทความนี้เกิดมาจากที่เมื่อวันก่อนผมไปเที่ยวแล้วเดินผ่านภาพกราฟฟิตี้บนกำแพงของสุดยอดซุปเปอร์หนังแอคชั่นอย่าง บรูซ ลี เข้า มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงช่วงฝึกเล่นหุ้นปีแรกที่ครูของผมท่านนึงได้เอา คำคมของบรูซ ลี มาแปะเพื่อใช้ในการสอนเทรดหุ้นในคลาสสัมมนา “ไม่ใช่คนที่ฝึกเตะมาเยอะกว่า 10,000 ท่าหรอกที่น่ากลัว แต่เป็นคนที่ฝึกเตะท่าเดียวซ้ำๆมาเป็น 10,000 ครั้งต่างหากที่ผมกลัว” บรูซ ลี คำคมนี้สะท้อนให้เห็นถึง การจดจ่อในการฝึกฝนตัวเองในแนวทางใดไม่กี่แนวทางเพื่อให้เกิดความชำนาญระดับสูงอาจจะให้ผลที่ดีกว่าการที่เราฝึกฝนตัวเองในหลายๆแนวทางแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญซักอย่าง โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าประโยคนี้ค่อนข้างจะเป็นจริงครับ แล้วเป็นจริงในหลายๆวงการ ถ้าเราลองดูในภาพยนต์หรือการ์ตูนก็เช่นกัน ฮอร์คอายในเรื่องอเวนเจอร์ก็ไม่ได้เหาะเหินเดินอากาศหรือปล่อยพลังได้ แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้คือความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธระยะไกลระดับเหนือมนุษย์ ทำให้เป็นกองกำลังสำคัญของหน่วยอเวนเจอร์ หรืออย่างในการ์ตูน ดราก้อนบอล ซุน โงกุน(โกคู) ไม่ว่าจะต่อยเตะกับศัตรูมาตลอดทั้งเรื่อง แต่สุดท้ายก็ต้องปราบศัตรูด้วยไม้ตายพลังคลื่นเต่าหรือบอลเก็งกิทุกครั้งไป จนทำให้หลายๆคนเวลาเห็นตัวละครโงกุนจะคิดถึงพลังคลื่นเต่าก่อนดราก้อนบอลเสียอีก ในด้านของแวดวงกีฬา ซึ่งผมจะเป็นคนที่ชอบดูกีฬาเป็นพิเศษอยู่แล้วยิ่งเห็นเรื่องพวกนี้ค่อนข้างชัดเจน ผมขอยกตัวอย่าง 3 นักกีฬาที่มีแนวทางเฉพาะตัว แล้วสามารถประสบความสำเร็จระดับสูงในโลกของกีฬา คนแรก Floyd Mayweather หนึ่งในนักมวยที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลก สไตลของฟรอยด์จะไม่ใช่สไตลเดินหน้าไล่ฆ่าอย่างเดียวแบบนักมวยทั่วๆไป แต่เป็นสไตล Defensive counter-puncher หรือสไตลตั้งรับและสวนกลับ และไม่ว่าจะไปต่อยกว่าใคร ฟรอยด์ก็มักจะตั้งรับให้แน่นไว้ก่อน…
-
5 ขั้นตอนการเอาตัวรอดหลังจากที่คุณขาดทุนติดๆ กัน
บทความ 5 ขั้นตอนการเอาตัวรอดหลังจากที่คุณขาดทุนติดๆ กัน โดย Galen Woods ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงมากๆ ซึ่งอาจจะทำให้เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเจอกับการขาดทุนติดๆ กัน วันนี้ผมมีบทความที่ช่วยให้เรารับมือกับการขาดทุนต่อเนื่องติดๆ กันได้ดียิ่งขึ้นครับ บทความนี้อาจจะเหมาะกับคนที่เทรดมาได้ซักระยะหนึ่งมากกว่ามือใหม่ เดี๋ยวมาคุยเรื่องเหตุผลกันว่าทำไมผมถึงคิดแบบนั้นในช่วงท้ายบทความ ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะครับ มีประโยชน์แน่นอน การขาดทุน การขาดทุนติดๆ กัน และการขาดทุนหนัก การขาดทุนติดๆ กันมักจะดึงพฤติกรรมแย่ๆ ของเทรดเดอร์ออกมา หลังจากที่คุณเจอช่วงที่ขาดทุนติดๆ ความมั่นใจของคุณจะเริ่มถูกทำลาย จิตใจของคุณเริ่มไม่พร้อมที่จะเทรด คุณเริ่มวิตกกังวลว่าการขาดทุนติดๆ กันรอบนี้มันอาจจะเพราะว่าคุณไม่ดีพอหรือกลยุทธ์ของคุณเริ่มที่จะไม่มีความได้เปรียบ การขาดทุนติดๆ กันหรือการขาดทุนหนักอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวในอาชีพการเทรดของคุณ เพราะเหตุผลพวกนี้ คุณจึงจะเป็นต้องรู้จักที่คาดการณ์และวางแผนรับมือกับช่วงเวลาที่คุณขาดทุนอย่างถูกวิธี สำหรับบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดและการฟื้นฟูจากช่วงเวลาที่คุณขาดทุนซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญของเทรดเดอร์ทุกคน ตัวผมพบเจอกับช่วงเวลาที่ขาดทุนอยู่บ่อยๆ มันกัดกินและสร้างบาดแผลให้กับความมั่นใจของคุณ มันทำให้คุณขาดสติอยู่เรื่อยๆ จนกว่าที่คุณจะเรียนรู้ที่จะจัดการกับพวกมัน ที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้ว่าการรับมือกับช่วงที่เราขาดทุนเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ และนี่คือ 5 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณรอดจากช่วงเวลาที่คุณขาดทุน ขั้นตอนที่ 1 ปรับความคาดหวังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณขาดทุนติดๆ กันหรือช่วงเวลาที่คุณขาดทุนหนัก “คุณจะเจอกับช่วงเวลาที่ต้องขาดทุนแน่นอน และคุณจะพบกับมันอยู่เรื่อยๆ ถ้าคุณยังอยู่ในอาชีพนี้” นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณรับรู้ไว้ คุณต้องคาดการณ์ไว้เลยว่าจะต้องเจอช่วงที่คุณขาดทุนติดๆ กัน ถึงแม้ว่าคุณจะมีกลยุทธ์ที่กำไรได้อย่างดีก็ตาม ฉะนั้นอย่างแรกที่คุณจะต้องเข้าใจก็คือ…