Author: admin

  • การจัดการความเครียดของอาชีพเทรดเดอร์

    การจัดการความเครียดของอาชีพเทรดเดอร์

    – การจัดการความเครียดของอาชีพเทรดเดอร์ โดย Humble Trader Diary – จากเหตุการณ์ที่ตลาดตกค่อนข้างแรง คิดว่าน่าจะมีหลายคนเครียดกับการลงทุนหรือการเทรด หวังว่าบทความนี้จะช่วยพวกคุณได้บ้างนะครับ “กุญแจสำคัญของการเทรดให้ประสบความสำเร็จ คือการมีความสงบนิ่งและวินัยในการเทรดแม้ว่าคุณกำลังจะเผชิญกับความเครียด” – Paul Tudor Jones, Market Wizard – ที่ผ่านมาผมคิดว่าเป็นปีที่นักลงทุนหรือคนที่เทรดค่อนข้างจะ “เครียด” กว่าในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงหลังโควิดที่ผมตอบแทนในหลายๆ ตลาดค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะหุ้นต่างประเทศเมกา จีน เวียดนาม ตลาดเหรียญรวมถึงตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน แต่พอมาในช่วงปี 2022 หลายๆ ตลาดค่อนข้างจะพัง ตลาดที่กล่าวมาทั้งหมดค่อนข้างจะเจอกับความผันผวนและลงกันอย่างหนักจากพิษของสงครามและการขึ้นดอกเบี้ย ตลาดไทยปีที่แล้วไม่ลงแต่ก็ไม่ได้เป็นปีที่ง่าย ด้วยความที่ปกติเป็นคนที่ตอบ inbox ในเพจค่อนข้างจะบ่อยก็เลยได้พอรู้เรื่องราวของหลายๆ คนที่ปีที่แล้วค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่สดใสไม่เหมือนที่คิดไว้ จนเกิดอาการเครียดสะสม วันนี้ก็เลยอยากจะเขียนเรื่องนี้ครับ ความเครียดในการเทรด และวิธีจัดการความเครียดในแบบของตัวผมเอง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านครับ อุตสาหกรรมของการลงทุนและการเทรดค่อนข้างจะเป็นที่ที่มีความเครียดที่สูงครับ ซึ่งมีอยู่หลายปัจจัยเลยที่ทำให้คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เกิดความเครียด ยกตัวอย่างเช่น 1. ความผันผวนของตลาดทุน ด้วยความที่ธรรมชาติของตลาดทุนนั้น มีการขึ้นและลงหรือที่เราเรียกว่าความผันผวนจากปัจจัย 108 ที่มันไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดเกิดความผันผวนอย่างหนักจากปัจจัยสำคัญต่างๆ เช่น จากนโยบายทางการเงิน การเมือง…

  • แพ้บ้างก็ได้

    แพ้บ้างก็ได้

    – แพ้บ้างก็ได้ โดย Humble Trader Diary – ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมตลาดประเทศไทยเริ่มตกหนัก ผมทักพี่คนหนึ่งไปด้วยความเป็นห่วง ซึ่งพี่คนนี้ถือเป็นครูทางด้านการลงทุนของผมเลย แกเข้าตลาดมาตั้งแต่ก่อน hamburger crisis แล้วประสบความสำเร็จอย่างมากจนถึงปัจจุบัน ผมทักแกไปเพราะความเป็นห่วงเนื่องจากแกเป็น investor ที่ไม่ได้ปรับสถานะเร็วมากนักและด้วยขนาดพอร์ตของแกที่มันไม่ง่ายนักที่จะขายสถานะได้ในราคาที่ต้องการ ผมทักแกไปว่า “มาสเตอร์ เป็นไงบ้างครับ ยังโอเคมั้ยครับ” แกก็ตอบกลับมาว่า “ยับเลยครับ.. ไทยตอนนี้ ytd -10 กว่า% …” แล้วเราก็คุยกันต่อซักระยะตามภาษา ซึ่งจากความคิดส่วนตัวของผม ผมรู้สึกว่าด้วยสไตล์ของแก กับ situation ที่มันเกิดในตลาด ผมว่าแกอย่างเก่งเลย ซึ่งไม่นานผมว่าแกก็คงกลับมาได้ไม่ยาก ด้วยสภาพตลาดที่หุ้นราคาถูกลง หาหุ้นได้ง่ายขึ้น เพราะแกเป็น stock picker ที่เก่งมากๆ ในประเทศไทย และที่แกพอร์ตลดลงปีนี้นั้นมันไม่ใช่การขาดทุนที่เกิดจากการคัทหรืออะไรมากเท่าไหร่นัก โดยส่วนใหญ่เกิดจากที่หลายตัวถือลงทุนมาซักระยะตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วมันลงมาในปีนี้ พูดง่ายๆ ก็คือคืนกำไรกลับมาซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องปกติของคนที่เป็น investor อยู่แล้วครับ สิ่งที่ผมมองเห็นอย่างชัดเจนในพี่คนนี้ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาคือ แกแพ้เป็น และกล้ายอมรับมันอย่างบริสุทธิ์ใจ รวมถึงแกก็พร้อมพัฒนาตลอดเช่นกัน โดยปกติเราจะชอบคุยกันเรื่องการแก้ปัญหาในเกมของเราอยู่ตลอด…

  • กับดักความอยากรวย

    กับดักความอยากรวย

    – กับดักความอยากรวย โดย Justin Paolini – วันนี้เอาบทความของคุณ Paolini โค้ชเทรดเดอร์ค่าเงินสัญชาติอิตาลี และตัวผมเป็นแฟนคลับงานเขียนของเขาครับ บทความนี้เขียวเกี่ยวกับปัญหาที่ตัวผมเจอในตอนเริ่มต้นของการเทรด นั่นคือเรื่องของการคิดถึงเรื่องผลลัพธ์มากเกินไป จริงๆ ถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ช่วงที่เทรดใหม่ๆ คงไม่ต้องงมเกี่ยวกับการเทรดนานอย่างที่เป็นอยู่ คิดว่ามีประโยชน์ครับโดยเฉพาะกับมือใหม่ที่เข้ามาเทรดไม่นาน บทความไม่ยาวมาก ลองอ่านกันดูนะครับ “ถ้าหากอยากประสบความสำเร็จในการเทรด คุณจำเป็นจะต้องฆ่าความสัมพันธ์” – Van Tharp – ทำไมคุณถึงเข้ามาสนใจในเรื่องการเทรด ? มันเป็นเพราะคุณหลงใหลในเรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาคหรือตลาดการเงินรึเปล่า หรือคุณสนใจมันเพราะเหตุผลอย่างเดียวเลย คือ คุณอยากรวย ? มันไม่ได้น่าแปลกใจเลยที่คนส่วนใหญ่หันมาเทรดเพราะพวกเขาเหนื่อยล้ากับการทำงานประจำและต้องการวิธีหาเงินที่ง่ายกว่า หรือบางทีพวกเขาอยากที่จะเทรดเพิ่มรายได้ระหว่างที่ทำงานประจำไปด้วยเพื่อพวกเขาจะได้เกษียนก่อนวัยบนเกาะหรูๆ แห่งหนึ่ง เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมามีจุดร่วมกันเพียงสิ่งเดียวเลยคือ เงิน คือ เป้าหมายหลักที่พวกเขาต้องการ ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า สาเหตุหลักที่คนล้มเหลวในตลาดหุ้น คือพวกเขาโฟกัสแต่เรื่องเงินนี่แหละ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ยิ่งคุณจดจ่อกับเป้าหมายทางด้านตัวเงินมากเท่าไหร่ เงินจะยิ่งถอยห่างจากคุณมากเท่านั้น เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดที่ผมรู้จักเขามักมีคุณสมบัติเหล่านี้ เงินนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้จากความพยายามของพวกเขาเท่านั้น Greed is not good มีสุภาษิตโบราณหนึ่งที่ถูกพูดในวงการมาอย่างยาวนานบอกไว้ว่า “90% ของเทรดเดอร์ทั้งหมดจะขาดทุน 90% ภายใน…

  • ความหวังคือที่พักพิงสุดท้ายของคนไม่เตรียมตัว

    ความหวังคือที่พักพิงสุดท้ายของคนไม่เตรียมตัว

    – ความหวังคือที่พักพิงสุดท้ายของคนไม่เตรียมตัว โดย Humble Trader Diary – “พี่หวังว่าหุ้นที่พี่มีจะเด้งกลับไปเท่าเดิม” คำพูดนี้เป็นประโยคที่คนในงานสัมมนาคนนึงพูดกับผมไว้เมื่อต้นปี หุ้นที่พี่เขาถือไว้เมื่อปลายปี 2560 ขาดทุนกว่า 60% โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาในเร็ววัน “ความหวัง” ในด้านของการใช้ชีวิต “ความหวัง” คือคำที่ไว้ใช้ให้กำลังใจคนอื่นหรือตัวเราให้เดินหน้าต่ออย่างไม่ท้อถอย หรือใช้ในทางศาสนาเพื่อให้เราศรัทธาในอะไรซักอย่างหนึ่ง เวลาที่เราลงทุนแล้วหุ้นที่เราซื้อไปมันร่วงลงไปต่ำกว่าจุดที่เราซื้อ จุดตัดขาดทุนที่เราคิดว่าจะตัดขาดทุนใกล้เข้ามาทุกที เวลาผ่านไปมันร่วงไปถึงจุดนั้น แต่เราดันไม่ทำตามที่เราคิดไว้ตอนแรก ตัวเราเริ่มหาเหตุผลต่างๆนาๆมาเพื่อสนับสนุนตัวเองว่าทำไมเราไม่ควรขายมันออกมาทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมี จนมันดิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆ หลุดแนวรับที่ 2, 3 และ4 จนสุดท้ายมันไม่เหลือเหตุผลอะไรที่จะถือต่อ ยกเว้นอย่างเดียวคือ “ความหวัง” “ความหวัง” เป็นเพียงคำนามธรรมคำหนึ่งเช่นเดียวกับ “ความคิดเห็น” และ “ความรู้สึก” ไม่เหมือนกับราคาและปริมาณซื้อขายหรืองบการเงินที่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม ในด้านของการเทรด “ความหวัง” เป็นเพียงแค่คำคำหนึ่งที่เอาไว้ให้ใจเราได้พักพิงยามที่พอร์ตการลงทุนของเราเสียหายเท่านั้น ถ้าคุณพบว่าทุกวันนี้คุณเทรดอยู่บน “ความหวัง” นั่นแสดงว่าคุณยังเตรียมตัวมาไม่มากพอ สิ่งที่คุณขาดคือแผนการที่ดีและวินัยที่จะทำตามในสิ่งที่คุณวางไว้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในด้านนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ เอาคำว่า “ความหวัง” ออกจากพจนานุกรมของคุณซะ และเตรียมตัว เตรียมตัวให้พร้อมกับทุกการเคลื่อนไหวที่สามารถเกิดขึ้นในตลาด เตรียมตัวให้กับหุ้นทุกตัวที่คุณมีและตัวที่คุณพร้อมจะเข้าไปซื้อขาย เตรียมตัวให้กับผลกำไรที่งอกเงยและผลขาดทุนที่มันกำลังจะเกิด เตรียมตัวที่จะตัดสินใจบนความไม่นอนและรับผลลัพธ์ที่่จะเกิดไม่ว่าจะร้ายหรือจะดี…

  • เมื่อความพร้อมประสบกับโอกาส

    เมื่อความพร้อมประสบกับโอกาส

    – เมื่อความพร้อมประสบกับโอกาส โดย Mark Minervini – เมื่อผู้คนฟังเรื่องราวความสำเร็จของผมในตลาดหุ้น คำถามที่ผมมักเจอพวกเขาถามอยู่บ่อยๆ คือ คุณทำมันได้ยังไง? หรือ คุณมีโชคเหรอ? คนส่วนใหญ่คิดว่าผมต้องเดิมพันอะไรเสี่ยงๆ แน่ หรือไม่ก็เป็นเพียงคนที่โชคดีกว่าชาวบ้านเขาในการได้ผลตอบแทนระดับนี้ จริงๆ แล้ว ผมประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้อย่างไร? เป็นเวลาหลายปี ผมทำงานหนักเพื่อที่จะทำให้ฝีมือการเทรดของผมสมบูรณ์แบบ ผมใช้เวลากว่า 70-80 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ และบ่อยครั้งที่จมอยู่บนกองของกราฟหุ้นและงบของบริษัททั้งคืนจนถึงเช้าตรู่ของอีกวัน แม้ว่าผลลัพธ์ของมันจะยังไม่ได้สวยหรูอะไร แต่ผมก็ยังพยายามตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไป ผมใช้เวลาหลายปีในการแยกว่าอะไรใช้ได้ และอะไรใช้ไม่ได้ พยายามทำให้ “กระบวนการในการเทรด” ของผมสมบูรณ์แบบ โดยการวิเคราะห์ผลการเทรดที่ผมได้กำไร และที่สำคัญเหนืออื่นใด คือ วิเคราะห์การเทรดที่ผมขาดทุน หลังจากนั้นสิ่งวิเศษก็เกิดขึ้น การเตรียมตัวของผมก็ได้พบกับโอกาสของมันซักที ในปี 1990 ผมได้รับประโยชน์จากตลาดขาขึ้นรอบใหม่ไปเต็มๆ ด้วยบทเรียนที่ผมศึกษาผ่านการลองผิด-ลองถูกในช่วงยุค 80’s เหมือนกับพิชเชอร์ที่กำลังเดินเข้าสู่สนามหญ้าพร้อมที่จะตี “โฮม-รัน” ให้เสียงมันดังกู่ก้องไปทั่วสนาม ตัวผมพร้อมอย่างที่ไม่เคยพร้อมมาก่อน เหมือนกับนักกีฬาโอลิมปิกที่ซ้อมแล้วซ้อมเล่าเพื่อพร้อมที่ลงแข่งในสนามอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด โอกาสในตลาดหุ้นสามารถทำให้ชีวิตของคุณพลิกผันได้อย่างรวดเร็ว การที่จะตักตวงผลประโยชน์จากมันคือคุณต้องเตรียมพร้อมและพร้อมที่จะรับมือกับมัน ณ ตอนนี้ที่อีกซีกโลกหนึ่ง มีคนบางคนที่เตรียมตัวเพื่อความสำเร็จอย่างไม่ยอมลดละ ถ้าคุณไม่ยอมเตรียมตัว บางคนที่เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความสำเร็จจะทำเงินได้อย่างมากมาย ขณะที่คุณได้แต่ฝันและคร่ำครวญกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ได้อะไรแบบเขาบ้าง ฉะนั้นจงเตรียมพร้อม…

  • จะทำอย่างไรให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น

    จะทำอย่างไรให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น

    – จะทำอย่างไรให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น โดย Bruce Bower – บทความรอบนี้มาจากการสรุปเนื้อหาที่ได้ไปเรียนมาและอ่านหนังสือของคุณ Bruce Bower เกี่ยวกับ Making better decisions for trading หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจระหว่างการเทรดครับ ช่วงนี้กำลังอินเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ จริงๆ เนื้อหามันยาวมาก ผมสรุปส่วนหนึ่งมาเอามาให้คนในเพจอ่านกัน คิดว่าเป็นประโยชน์ ลองอ่านกันดูนะครับ การพัฒนาการตัดสินใจในการเทรดเป็นหัวข้อที่น่าสนใจที่เราควรจะนำมันมาถกกัน แต่สิ่งแรกที่พวกเราจำเป็นจะต้องเข้าใจก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการตัดสินใจ คือ มนุษย์อย่างพวกเรามันเป็นพวกบ้า ใช่เลย พวกเราทุกคน รวมถึงตัวผมและตัวคุณด้วย พวกเรามักจะแสร้งทำเป็นว่ามีเหตุผลและสามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่เป็นแบบนั้นเลย ในความเป็นมนุษย์นั้น พวกเราล้วนแต่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากอารมณ์ สัญชาตญาณ นิสัยที่ไร้เหตุผล และปัจจัยภายนอกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น พวกเรามักจะเป็นกังวลอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุน ซึ่งมากกว่าการทำกำไรด้วยซ้ำไป พวกเราให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุด แม้ว่าบางทีมันจะไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นักก็ตามที และพวกเราก็มักจะตัดสินใจอย่างรวดเร็วและคิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แทนที่จะคิดให้ถี่ถ้วนและตัดสินใจอย่างเป็นระบบ Daniel Kahneman ผู้เขียนหนังสือชั้นยอดอย่าง Thinking, Fast and Slow ได้สรุปงานวิจัย 35 ปีที่แสนยาวนานของเขาเกี่ยวกับการตัดสินใจของมนุษย์ไว้ว่า “มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสิ่งที่เป็นอัตโนมัติซึ่งเราไม่สามารถควบคุมมันได้เลย และเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”…

  • กระบวนการเทรดหุ้นอย่างยั่งยืน

    กระบวนการเทรดหุ้นอย่างยั่งยืน

    – กระบวนการเทรดหุ้นอย่างยั่งยืน โดย Humble Trader Diary – บทความนี้เป็นบทความเก่าครับ เขียนตอนเริ่มเขียนเพจไม่กี่เดือนเลย คิดว่าหลายคนคงไม่เคยอ่านกัน ตอนนั้นคนตามเพจแค่พันกว่าคนเอง ครั้งนี้ผมเอามาปัดฝุ่นใหม่เขียนเติมหลายๆ อย่างเข้าไป ลองอ่านกันดูนะครับ บทความนี้เป็นบทความที่เขียนเกี่ยวกับกระบวนการเทรดเบื้องต้นของตัวผมเองนะครับ ผมเคยแชร์ให้กับสัมมนาของโบรคที่นึงแล้วเอามาเขียนให้เห็นภาพมากขึ้น โครงที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้จะดัดแปลงมาจากที่ผมได้เรียนวิชาentrepreneurship กับที่ได้เรียนจากอีก 3 ท่านด้วยกันคือ 1. คุณ Lee Tanner , โปรเทรดเดอร์แคนสลิม ที่เขาใช้หลักการนี้มาตั้งแต่ช่วงยุค 00’sและเป็นคนฝึกเทรดเดอร์มือใหม่ให้ใช้แคนสลิมอย่างถูกหลัก 2. คุณ Matthew Galgani ผู้เขียนHow to Make Money in Stocks – Getting Started แล้วก็เป็นผู้จัด the IBD investing show 3. คุณ Mark Minervini US Investing Champion 2 สมัย…

  • การซื้อหุ้นแบบพีระมิด

    การซื้อหุ้นแบบพีระมิด

    – การซื้อหุ้นแบบพีระมิด (PYRAMID YOUR WAY TO PROFITS) โดย Humble Trader Diary – กลับมาเขียนอะไรที่เป็น Method บ้างครับ จะเขียนสลับๆไปมาระหว่างบทความแปลกับพวก Mindset จะได้หลากหลายครับ ฝากกด Like กด Share ด้วยนะครับ ปล เนื้อหาอาจจะเป็นกราฟ Bar Chart ที่แอดมินถนัดนะครับ ใครใช้แท่งเทียนต้องขอโทษด้วยนะครับ การซื้อหุ้นแบบพีระมิดหรือการซื้อเฉลี่ยขาขึ้น จากการที่เราซื้อหุ้นไม้เดียวจะเปลี่ยนมาเป็นการทยอยซื้อแบ่งเป็นขั้นๆ โดยที่การซื้อขั้นแรกจะซื้อเป็นสัดส่วนเยอะที่สุด เมื่อหุ้นยิ่งขึ้นเราจะยิ่งทยอยซื้อเป็นขั้นขึ้นไปจนเต็ม Position คล้ายๆกับการสร้างพีระมิดในอียิปต์ เราจะแบ่งการซื้อเป็นกี่ไม้แล้วแต่เราถนัดนะครับ แต่ตามที่แอดมินถนัดก็จะเป็นสัดส่วน 50%-30%-20% โดยที่หน้าต่อไปเราจะมาพูดถึงข้อดี-ข้อเสียของมันกันครับ มาถึงเรื่องของข้อดี-ข้อเสียในการซื้อหุ้นแบบพีระมิดนะครับ อย่างที่เคยบอกในหลายๆครั้งว่าการเล่นทุกรูปแบบมันก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จุดสำคัญคือต้องเข้าใจและเลือกที่เหมาะกับเราผ่านการทดลองใช้งาน เรามาพูดถึงข้อดีของมันก่อน ข้อดีของการซื้อแบบพีระมิด 1. การซื้อแบบพีระมิดเหมือนเป็นการลองแหย่เท้าข้างนึงลงไปในน้ำก่อนที่เราจะลงน้ำไปทั้งตัวครับ มันคือการลดความเสี่ยงจากการที่เราซื้อหุ้นเต็มจำนวน เปลี่ยนเป็นการซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งก่อน รอให้มันพิสูจน์ตัวเองว่ามันขึ้นแล้วค่อยเพิ่มน้ำหนักของการถือขึ้นไป ถ้าเราขาดทุนแต่แรกเราจะขาดทุนน้อยกว่าที่เราซื้อเต็มจำนวน (ถ้าเราวางStop loss เท่ากัน) ยิ่งในตลาดที่ไม่อำนวยต่อการซื้อ เกิดการ…

  • ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ (Part 2)

    ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ (Part 2)

    – ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ ภาค 2 การปรับใช้งาน โดย Humble Trader Diary – พอดีมีบทความนึงที่หลายๆคนมักถามเข้ามาตลอดตั้งแต่ผมเริ่มทำเพจ เป็นบทความที่คนค่อนข้างให้ความสนใจและได้รับ Feedback กลับมาเยอะ ความเห็นค่อนข้างหลากหลาย ฉะนั้นเพื่อให้หลายๆท่านเข้าใจมันมากขึ้น ผมก็เลยเขียนบทความนี้เพิ่มขึ้นมาครับ งั้นเรามาเริ่ม Part 2 กันเลยครับ หมายเหตุ : โดยส่วนตัวแล้วผมเองจะไม่ค่อยอยากแชร์ หรือพูดเกี่ยวกับหุ้นไทยแบบเจาะจงรายตัวลงในเพจเท่าไหร่นัก เพราะมันจะเป็นการชี้นำมากเกินไป (ซึ่งถ้าใครอ่านบทความทั้งหมดมา ผมยกหุ้นไทยในบทความนับครั้งได้เลย หรือไม่ก็เป็นหุ้นไทยที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้ว ส่วนใหญ่จะเอาตัวอย่างหุ้นฝรั่งให้ดู) แต่เพื่อเป็นการอธิบายให้ทุกคนเข้าใจและนำไปปรับใช้กันง่ายขึ้น ผมจะขอยกตัวอย่างหุ้นไทยโดยที่จะเอามาจากช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งห่างจากเวลาปัจจุบันเป็นเวลา 2-3 เดือน (ถ้ามีการยกตัวอย่างหุ้นไทยในบทความถัดๆไป ผมก็ว่าจะทิ้งระยะห่างจากปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือนครับ) เรามาเริ่มทวนหลักการจากบทความที่แล้วกันก่อน “หุ้น 80-90% ในตลาดจะแสดงพฤติกรรมเดียวกับดัชนีของมัน” ถ้าตลาดลงหนัก หุ้นส่วนใหญ่จะลงหนัก ถ้าตลาดเป็นเทรนด์ขาลงระยะยาว หุ้นส่วนใหญ่ก็จะพังเป็นแนวโน้มขาลงไปพร้อมกับตลาด ส่วนที่ตลาดหุ้นเกิดการปรับฐานหรือเป็นขาลง แล้วมีหุ้นที่สามารถยืนอยู่ได้โดยที่ไม่ลงเหวไปกับตลาดหรือหลายตัวที่ขึ้นสวนทางเลยหุ้นเหล่านี้เรียกว่า “หุ้นที่แกร่งกว่าตลาด” เรามาดูหุ้น “GULF” ในช่วงปีที่แล้วกันครับ ในช่วงต้นปี ถึงช่วงต้นเมษายน…

  • ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ (Part1)

    ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ (Part1)

    – ตลาดมักบอกใบ้เราเสมอ by Humble Trader Diary – บทความนี้ผมเคยไปแชร์ให้กลุ่มเทรดกลุ่มนึงแล้ว วันนี้เอามาเขียนเป็นบทความให้พอได้แนวคิดครับ แนวคิดนี้ได้มาจาก Joe Fahmy ที่พูดในงานของ ChartSummit และ David Ryan จากสัมมนา Actionable Insight นะครับ ถ้าใครตามอ่านงานของ 2 ท่านนี้มาจะรู้ว่าทั้ง 2 ท่าน เทรดโดยนำ Criteria ทางด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจ แต่สิ่งที่ทั้งสองท่านมักพูดอยู่เสมอคือ ให้สังเกตที่ตลาดกับหุ้นรายตัวในตลาด โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปัจจัยอื่น เช่น พื้นฐานหุ้น หรืออินดิเคเตอร์ต่างๆนาๆ เราก็พอจะสามารถหาหุ้นผู้ชนะในอนาคตได้ครับ ซึ่งวันนี้ผมจะขยายหลักการนี้ โดยเอามาเขียนในแบบง่ายๆ โดยที่คนไม่ได้ศึกษาทางด้านนี้มาก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ ลองดูกันครับ เรามาพูดถึงหลักการง่ายๆกันก่อน ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือที่เราเรียกว่า SET INDEX (SET) มันคือดัชนีราคาที่สะท้อนหุ้นทุกตัวในตลาด เพราะมันถูกคำนวณจากราคาหุ้นทุกตัวในตลาดมาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นได้ว่าถ้าวันไหน SET ขึ้นแรง หุ้นในตลาดก็มีความน่าจะเป็นขึ้นแรง ถ้า SET ตกหนักเราก็จะเห็นหุ้นเกือบทั้งตลาดตกหนัก…