A Guide to Super Performance บทสัมภาษณ์ของสุดยอดนักลงทุน ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 DR. MATTHEW CARUS

Interview by Capitalise

มาต่อกันกับบทสัมภาษณ์สุดยอดนักลงทุนตอนที่ 3 ครับ

ผมเอาบทสัมภาษณ์ของคุณ Matthew Caruso นักลงทุนที่เพิ่งแจ้งเกิดไม่นานจากเวทีการแข่งขัน U.S. investing championship ครับ เขาคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่ทำลายสถิติผลตอบแทนสูงสุดในการแข่งขันรายการนี้ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 จนทำผลตอบแทนตอนจบการแข่งขันไปได้ 346% และคว้าอันดับที่ 4 ในการแข่งขันไป (ช่วง 9 เดือนแรกแกอยู่อันดับ 1 แล้วถูกแซงในไตรมาสสุดท้าย)

ผมมีโอกาสได้เรียนในคลาส online ของแก “The Active Growth Investor” แล้วชอบมากก็เลยค่อนข้างติดตามทุกงานที่แกไปสัมภาษณ์ วันนี้ผมเอาบทสัมภาษณ์ของแกกับ Capitalise ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์มาก ลองอ่านกันดูนะครับไม่ค่อยยาวเท่าไหร่

สวัสดีครับคุณ Matt สำหรับผู้อ่านทุกคน คุณช่วยแนะนำตัวเองซักเล็กน้อยได้มั้ยครับ

แน่นอนครับ ผมมีความสนใจในตลาดหุ้นมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อของผมเคยอนุญาติให้ผมเทรดในพอร์ตของเขาในตอนที่ผมยังเด็กมากและยังไม่สามารถเปิดพอร๋ตได้ ผมโชคดีที่เมื่อผมจบจากชั้นมหาวิทยาลัยงานแรกของผมคือการเป็น market maker ผมทำงานที่นั่นซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดา 6 ปี ในช่วงเวลานั้นผมเริ่มมีความคิดว่า ผมน่าจะทำเงินได้มากกว่านี้ถ้าผมใช้ทักษะที่ผมมีออกมาเทรดเอง จากนั้นผมก็เริ่มทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 ช่วงปี 2020 ที่โควิด 19 ระบาดในตอนเริ่มต้น มีคนรู้จักผมมากขึ้นจากรายการ US Investing Championship เพราะผมทำลายสถิติผลตอบแทนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของรายการในช่วง 9 เดือนแรก (แอดมิน : รายการนี้แข่งกัน 12 เดือน) ในปีที่ผ่านมาผมเปิดสอนการเทรดของตัวเองและได้รับการตอบรับอย่างดีและผมเพลิดเพลินที่ได้ทำมัน และตอนนี้ผมก็ได้มาสัมภาษณ์กับคุณที่นี่

คำถามแรกสำหรับคุณนะครับ อะไรคือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในการเทรดหุ้นของคุณครับ

ผมเคยตกหลุมรักกับสตอรี่ในกลุ่มหุ้นกลุ่มหนึ่ง ผมคิดว่าทุกคนที่เป็นมือใหม่น่าจะผ่านเรื่องนี้มาก่อน ผมฝืนกฏการบริหารความเสี่ยงของตัวเองและเสียเงินจนเกือบจะหมดตัวในเหตุการณ์นั้น เทรดเดอร์เก่งๆ หลายคนมักจะบอกว่าเขาเคยหมดตัวครั้งสองครั้งก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ผมโชคยังดีที่กระโดดลงจากเรือทันก่อนที่มันจะล่ม ซึ่งปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์นั้นมันเป็นปีที่ดีและผมก็ทำเงินคืนกลับมาได้ แต่มันแย่นะที่ลืมเรื่องของกฏการบริหารความเสี่ยงและการฟังเรื่องราวต่างๆ มากเกินไปมันมีแต่จะทำให้คุณเจอกับปัญหา

ตัวแปรสำคัญที่คุณใช้วิเคราะห์ตลาดมีอะไรบ้างครับ คุณใช้ข้อมูลทางปัจจัยพื้นฐาน เทคนิค หรือแบบผสม หรือการลงทุนแบบ quant คุณใช้อะไรบ้าง

เอาตรงๆ ผมลองมาหลายรูปแบบแล้ว และอ่านหนังสือมาทุกเล่มเท่าที่ผมจะอ่านได้ และลองเปลี่ยนมาหลายกลยุทธ์ตลอดหลายๆ ปีที่ผ่านมา สไตล์ที่ผมโฟกัสอยู่ในตอนนี้คือ วิธีการเทรดหุ้นเติบโตที่มีรากฐานจากคุณ William O’Neil (เจ้าของหนังสือ How to make money in stocks) ซึ่งมันเป็นการผสมผสานระหว่างปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยทางพื้นฐาน และตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์และวิธีการเทรดระยะสั้นมาปรับใช้เช่นกัน สไตล์การเทรดของผมมันจะมีความซับซ้อนและดุดันมากกว่าต้นฉบับ ซึ่งผมปรับวิธีการของเขามาทำให้เหมาะกับตัวผมเอง และผมออกแบบ algorithms บางตัวขึ้นมาใช้เองเช่นกัน

โดยปกติผมจะเริ่มจากการเข้าใจเรื่องราวของบริษัทก่อน และดูว่าบริษัทใดที่ทำผลประกอบการได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วจากนั้นผมจะไปวิเคราะห์กราฟของบริษัทนั้นๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าแนวโน้มที่ดีของมันน่าจะยังดำเนินต่อไป การที่ใส่ใจทั้งเรื่องของเรื่องราวปัจจัยพื้นฐานของกิจการและกราฟราคาของมันทำให้ผมได้แนวทางว่าเมื่อไหร่ควรซื้อขายและจะควบคุมความเสี่ยงอย่างไร ไม่ว่ากราฟราคาจะดีขนาดไหนก็ตาม ถ้าบริษัทไม่สามารถเติบโตได้ดีเหมือนอย่างเคย สุดท้ายแล้วกราฟของมันก็จะไม่สามารถขึ้นไปต่อได้

ช่วยเล่าการเทรดที่คุณประสบความสำเร็จมากที่สุดให้พวกเราฟังได้มั้ยครับ

การเทรดที่ดีที่สุดของผมเกิดขึ้นเมื่อปี 2020 กับหุ้นที่ชื่อ Livongo (แอดมิน : ในปัจจุบัน Livongo ถูกควบรวบกับบริษัท Teladoc ไปแล้วครับ)

ผมเทรดสินค้าอย่างโลหะและทองให้กับธนาคารอยู่หลายปี ดังนั้นผมจึงเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินเป็นอย่างดี ผมจำได้ว่าในช่วงวิกฤตโควิดเดือนมีนาคมปี 2020 ทาง Fed ประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเหลือ 0% พร้อมประกาศมาตรการ QE ผมบอกกับตัวเองเลยว่า นี่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและมันทรงพลังมากๆ ตลาดหมีน่าจะจบแล้วหลังจากที่ประกาศแบบนี้ ผมคิดได้ทันทีว่านี่มันเหมือนกับช่วงที่เกิดสงคราม แต่คราวนี้เป็นสงครามโรคไวรัส ผมจึงกลับไปดูเหตุการณ์ช่วงสงครามอย่างปี 1914 และเห็นว่าพวกหุ้นโลหะนั้นพุ่งทะยานอย่างแรงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และผมก็กลับมาถามตัวเองว่า อะไรมันจะเกิดคล้ายๆ กันในช่วงQ คุณรับมือกับธรรมชาติที่ตึงเครียดของการเทรดยังไงและจัดการกับอารมณ์ของคุณอย่างไรครับสงครามโรคภัยแบบนี้ ดังนั้นผมจึงเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ จนผมไปเจอหุ้น Livongo ผมเข้าซื้อมันที่ราคา $27 และขายที่ราคา $144 หลังจากที่บริษัทถูก take over การเทรดมันถูกวางแผนอย่างเป็นระบบ และเครื่องมือทางเทคนิคก็ยืนยันสิ่งที่ผมค้นคว้า ความเสี่ยงก็อยู่ในการควบคุมเป็นอย่างดี สำหรับผมการเทรดครั้งนี้เป็นการเทรด 10 ดาวของผมเลย ถูกที่และถูกเวลาอย่างเหมาะเจาะ

คุณรับมือความเครียดซึ่งเป็นธรรมชาติของการเทรดอย่างไรบ้างครับ และคุณจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรครับ

ผมแค่เทรดมันไปเรื่อยๆ นั่นคือทั้งหมดที่ผมทำเลย ผมคิดว่าความอดทนมันจะถูกสร้างขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อประสบการณ์มากขึ้น

ในช่วงที่ผมอายุยังไม่ขึ้นเลข 3 มันค่อนข้างง่ายกว่ามากเพราะผมยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีลูก ผมไม่เคยอยากจะเสียเงินหรอกนะ แต่สำหรับผมผมรักในกระบวนการการเทรด ในตอนที่ผมขาดทุนผมไม่รู้สึกเครียดเลย ผมแค่โฟกัสว่า “อะไรที่ผมทำผิดพลาด” และ “อะไรที่ผมสามารถทำได้ดีกว่านี้”

หลังจากที่ผมมีภรรยาและลูกแล้ว มันมีความกดดันเข้ามาและความเครียดเริ่มเกิดขึ้น ดังนั้นผมจึงเริ่มออกแบบเรื่องของความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้นและใช้เครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยลิมิตความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้น ผมชอบที่จะมี position ที่ค่อนข้างใหญ่ ถ้าหากหุ้นของผมขึ้นหนึ่งเด้งแล้วผมมีแค่ 5% ในหุ้นหนึ่งตัวแล้วผมได้กลับมาอีก 5% ผมคิดว่ามันไม่ได้ให้อะไรกับผมเท่าไหร่เลย ซึ่งถ้าผมอยากทำผลงานให้ได้ดี ผมต้องเดิมพันให้ได้น้ำได้เนื้อหน่อย แต่ผมไม่เคยซื้อหุ้นในครั้งเดียวเลย ผมเทรดแบบที่ปกติสถาบันทำ พวกเขาสะสมสถานะเป็นเวลาหลายสัปดาห์-หลายเดือน คุณไม่สามารถสะสมสถานะเป็นพันล้านดอลลาร์ได้ในครั้งเดียวหรอก และผมก็ตรรกะแบบนั้นมาประยุกต์ใช้เช่นกัน ผมเริ่มสะสมสถานะอย่างช้าๆ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผมไปถูกทาง ช้าแต่ชัวในจุดสะสมสถานะตามแท็คติกที่วางไว้ แต่ใช่ว่าจะสะสมสถานะไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีลิมิต เทรดเดอร์ทุกคนมีลิมิตกันทั้งนั้นไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรก็ตาม ดังนั้นผมจะมีระบบการสะสมสถานะที่มันเหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของตัวผมเองเพื่อให้ผมสามารถนอนหลับได้อย่างสบาย

คุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับ Trading Automation บ้างมั้ยครับ

แน่นอน มันโคตรน่าสนใจเลย และมันเป็นส่วนสำคัญของตลาดในปัจจุบันเลย ผมเข้าไปร่วมกับโบรคเกอร์ที่เขามีเรื่อง Automated trading เป็นจุดขาย เห็นได้ชัดเราไม่สามารถสู้ในเรื่องของความเร็วได้ตลอด แต่ผมเซ็ตโปรแกรมมาใช้สำหรับ market action ในหลายๆ สถานการณ์ ทุกวันนี้การ day trade นั้นยากขึ้นเยอะ มันเป็นเกมการต่อสู้ที่เสียเปรียบมากๆ ผมคิดว่านักลงทุนรายย่อยจะได้เปรียบกว่าถ้าไปเล่นรันเทรนหลายๆ วันหรือหลายสัปดาห์

คำถามสุดท้าย ช่วยแนะนำพวกเราหน่อยครับ ถ้าคุณสามารถบอกอะไรกับตัวเองที่เพิ่งเริ่มต้นเข้ามาเทรดคุณจะบอกอะไรเขาคนนั้นครับ

ถ้าหากผมบอกกับตัวเองได้อย่างหนึ่ง ผมคงบอกเกี่ยวกับเรื่องกลยุทธ์การเทรดที่เราสามารถใช้ในการทบต้นเงินของเราไปได้เรื่อยๆ ในระยะยาว เพื่อที่จะไม่ต้องไปเปลี่ยนมันกลางทาง

ความถนัดที่ผมเชี่ยวชาญมาเป็นเวลานานคือการเทรดในหุ้นขนาดเล็ก และมันมาถึงจุดหนึ่งที่ขนาดพอร์ตของผมมันใหญ่เกินไปที่จะเติบโตแล้วถ้าใช้วิธีการนี้ ในแง่หนึ่งคือผมทำธุรกิจนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหนึ่ง แต่ผมสังเกตได้ว่าผมเริ่มมาถึงจุดที่เริ่มโตช้าและมันเริ่มตันแล้ว สิ่งนี้มันทำให้ผมต้องเปลี่ยนและขยายขอบเขตความเชี่ยวชาญของตัวเองซึ่งมันยากและเปลืองเวลามาก มันจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่า เมื่อคุณเลือกใช้อะไรก็ตาม คุณต้องมองการณ์ไกลอย่างละเอียด แล้วเลือกกลยุทธ์ที่คุณสามารถทบต้นเงินของคุณได้ และสามารถใช้มันได้อีกยาวๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาที่ความมั่งคั่งของคุณนั้นมากขึ้น

สามารถติดตามคุณ Caruso ได้หลายทางเลยทั้งใน youtube , Twitter และ website ส่วนตัวของแกเอง วันนี้ก็ขอจบไว้เพียงแค่นี้ครับ ชอบไม่ชอบอย่างไร ฝาก comment ไว้ได้นะครับ มีอีกหลายคน หลายบทความที่ดีมากๆ ผมสนับสนุนให้คนนั่งอ่านหรือฟัง interview นะครับคิดว่ามีประโยชน์สำหรับการเทรดไม่แพ้การอ่าน textbook เลย สุดท้ายนี้ฝากสนับสนุนเพจด้วยการกด Like + Share จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ

A Guide to SuperPerformance บทสัมภาษณ์ของสุดยอดนักลงทุน ตอนที่ 3 Matthew Caruso แปลและเรียบเรียงโดย Humble Trader Diary