– กับดักความอยากรวย โดย Justin Paolini –

วันนี้เอาบทความของคุณ Paolini โค้ชเทรดเดอร์ค่าเงินสัญชาติอิตาลี และตัวผมเป็นแฟนคลับงานเขียนของเขาครับ บทความนี้เขียวเกี่ยวกับปัญหาที่ตัวผมเจอในตอนเริ่มต้นของการเทรด นั่นคือเรื่องของการคิดถึงเรื่องผลลัพธ์มากเกินไป จริงๆ ถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ช่วงที่เทรดใหม่ๆ คงไม่ต้องงมเกี่ยวกับการเทรดนานอย่างที่เป็นอยู่ คิดว่ามีประโยชน์ครับโดยเฉพาะกับมือใหม่ที่เข้ามาเทรดไม่นาน บทความไม่ยาวมาก ลองอ่านกันดูนะครับ
“ถ้าหากอยากประสบความสำเร็จในการเทรด คุณจำเป็นจะต้องฆ่าความสัมพันธ์”
– Van Tharp –
ทำไมคุณถึงเข้ามาสนใจในเรื่องการเทรด ?
มันเป็นเพราะคุณหลงใหลในเรื่องของเศรษฐศาสตร์มหภาคหรือตลาดการเงินรึเปล่า หรือคุณสนใจมันเพราะเหตุผลอย่างเดียวเลย คือ คุณอยากรวย ?
มันไม่ได้น่าแปลกใจเลยที่คนส่วนใหญ่หันมาเทรดเพราะพวกเขาเหนื่อยล้ากับการทำงานประจำและต้องการวิธีหาเงินที่ง่ายกว่า หรือบางทีพวกเขาอยากที่จะเทรดเพิ่มรายได้ระหว่างที่ทำงานประจำไปด้วยเพื่อพวกเขาจะได้เกษียนก่อนวัยบนเกาะหรูๆ แห่งหนึ่ง เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมามีจุดร่วมกันเพียงสิ่งเดียวเลยคือ
เงิน คือ เป้าหมายหลักที่พวกเขาต้องการ
ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า สาเหตุหลักที่คนล้มเหลวในตลาดหุ้น คือพวกเขาโฟกัสแต่เรื่องเงินนี่แหละ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ยิ่งคุณจดจ่อกับเป้าหมายทางด้านตัวเงินมากเท่าไหร่ เงินจะยิ่งถอยห่างจากคุณมากเท่านั้น เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดที่ผมรู้จักเขามักมีคุณสมบัติเหล่านี้
- พวกเขามีความสนใจในตลาดทุนและสิ่งที่เกิดรอบโลกอย่างแท้จริง
- พวกเขาโฟกัสแต่เรื่องของการเล่มเกมอย่างถูกวิธี
- พวกเขาไม่ได้ “ต้องการ” เงิน (เป็นเป้าหมายหลัก)
- พวกเขามีวินัย และมีความเป็นเจ้าของธุรกิจ
- พวกเขามีความอดทนและมีความเข้าใจตัวเองสูง
เงินนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้จากความพยายามของพวกเขาเท่านั้น
Greed is not good
มีสุภาษิตโบราณหนึ่งที่ถูกพูดในวงการมาอย่างยาวนานบอกไว้ว่า “90% ของเทรดเดอร์ทั้งหมดจะขาดทุน 90% ภายใน 90 หลังจากที่เขาเริ่มต้นเทรด” ในมุมมองส่วนตัวผมว่ามันก็อาจจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป แต่มันมีมากถึง 40% ที่คนที่เล่น day trade จะหายไปภายในเดือนเดียว และจะมีเพียงเทรดเดอร์แค่ 10% เท่านั้นที่จะคงอยู่ในเกมได้มากกว่า 3 ปี ผมเชื่อเหลือเกินว่าเรื่องของเงินมันเกี่ยวข้องกับสถิติพวกนี้อย่างมาก และเพื่อให้คุณเข้าใจว่าเรื่องของเงินมันเกี่ยวข้องอย่างไร ผมขอเล่าเรื่องนักเรียนของตัวผมเอง เราจะเรียกเขาว่า “MoneyMan” ซึ่งผมเรียกเขาว่า “MoneyMan” เพราะเขามีคุณสมบัติตามนี้ทุกข้อเลย คือ
- เขามีความสนใจในตลาดทุนอย่างแท้จริง
- เขามีงานที่ทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
- เขามีเงินมากพอที่พร้อมจะเสี่ยง (เพื่อให้เขาใช้ในการเทรด)
- เขาทำธุรกิจส่วนตัว
ดังนั้นเขาจึงมีเวลาและเงินทุนมากพอที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในการเทรดอย่างที่เขาตั้งใจ ผมเริ่มทำงานกับเขาเพื่อที่ยกระดับทักษะการเทรดของเขาและหาว่าเขามีจุดบกพร่องตรงไหน และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในช่วง 6 เดือน (ดูภาพ equity curve ได้ใน comment)
จากภาพแล้วมันมีช่วงเวลาที่เกิด drawdown อย่างเด่นชัดอยู่ 4 ช่วงด้วยกัน ถ้าถามว่ามันเป็นเพราะตลาดหรือปัจจัยภายนอกรึเปล่าที่ทำให้เกิด drawdown พวกนี้
ไม่ใช่เลยครับ ในช่วงที่เขา drawdown ผมได้เข้าประชุมกับเขาแล้วได้การตอบกลับแบบนี้ทุกครั้ง
“คุณก็รู้ว่าผมทำมันได้โคตรดี ผมกำลังนิ่งและผลลัพธ์มันออกมาอย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นผมเลยพยายามที่จะผลักดันตัวเอง ผมเพิ่มขนาดการเทรดและพยายามไปให้ถึงเป้าหมายเงินที่ผมอยากได้จากนั้นพอร์ตผมก็เริ่มพังทลาย”
มันเกิดอะไรขึ้น ?
คำตอบทั้งหมด มันเป็นเรื่องของ “เงิน” เงินมันเข้ามาอยู่ในสมการการเทรด นักเรียนของผมมีวินัยและมีสมาธิ แต่ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมของเขาเริ่มเข้ามาแทรกแซงและเขาเริ่มที่จะฝันถึงรถเฟอร์รารี่และการซื้อเกาะเล็กๆ ในประเทศกรีซซักแห่ง โฟกัสของเขาเปลี่ยนจากเรื่องของกระบวนการไปสู่เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่เขาทำได้และฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น
คุณจะปฏิบัติตามหลักการเทรดที่เหมาะสมได้อย่างไรหากคุณยังมีอารมณ์ร่วมกับการเดิมพันครั้งใหญ่หรือการเข้าไปเทรดหลายๆ ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งหลายๆ ครั้งเป็นการเทรดที่ไม่ได้มาจากแผนการแต่มาจากการพยายามเอาคืนจากการขาดทุนที่เสียไป ผลข้างเคียงของการที่โฟกัสแต่เรื่องเงินคือมันทำให้คุณลืมเรื่องการบริหารความเสี่ยงไป จากประสบการณ์ของผม เทรดเดอร์ที่มีอารมณ์กับกำไรและขาดมักจะเกิดจาก position size ที่ใหญ่เกินไปจนมันสร้างความเสียหายอย่างหนักในตอนที่เขาตัดขาดทุน อีกหนึ่งผลข้างเคียงจากการสนใจแต่เรื่องของเงินคือ จิตใจของคุณมันไม่ได้ถูกใช้ไปกับการเรียนรู้ที่จะเล่นเกมอย่างเหมาะสมและการรักษาระเบียบวินัย เพราะพลังงานของคุณมันถูกใช้ในการควบคุมอารมณ์ความโลภของคุณแทน จากที่คุณจะเทรดกลายเป็นว่าคุณกำลังพนันอยู่
หนทางรักษา : การโฟกัสในกระบวนการ
“จิตวิทยาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ”
– Tom Basso , Market Wizard –
เหตุผลหนึ่งที่ผมเข้าใจ Moneyman อย่างถ่องแท้เลยเป็นเพราะผมเคยผ่านจุดนั้นมาก่อน ในตอนที่ผมเริ่มต้นอาชีพการเทรด ผมทำผิดพลาดมากมาย สิ่งหนึ่งที่ผิดพลาดที่สุดของตัวผมเองคือการไม่มีรายได้ทางอื่นเลย มันทำให้เรื่องของ การหาเงินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไปโดยปริยาย ดังนั้นในแต่ละการเทรดแม่งโคตรจะสำคัญ และผมไม่สามารถปล่อยให้การขาดทุนเป็นเพียง “แค่การขาดทุน” มันหนักหนากว่านั้นเยอะเลย เพราะมันทำให้ผมคิดถึงแต่เรื่องการทำเงินในการเทรด เป้าหมายระยะสั้นเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจจนทำให้ผมลืมเป้าหมายระยะยาวไป ลืมไปว่าการเทรดมันเป็นการวิ่งมาราธอนไม่ใช่การวิ่งแข่ง
ผมอยากจะแชร์สิ่งที่ผมบอกกับ Moneyman ไปในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เผื่อคำแนะนำพวกนี้จะช่วยคุณได้เหมือนกัน
1. ลงทุนกับการศึกษาของคุณ เรียนรู้หรือสร้างกลยุทธ์ที่คุณเชื่อในมันจริงๆ
วิธีเดียวที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ในวงการนี้คือการเรียนรู้ในการเทรด ลงทุนในตัวคุณเองกับผู้ที่ประสบความสำเร็จ คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลยถ้าหากคุณไม่มีวิธีการที่ประสบความสำเร็จอย่างยาวนานและเชื่อในมัน
2. เทรดไปพร้อมกับการทำงาน หรืออย่างน้อยคุณควรมีรายได้ทางอื่นนอกจากแค่การเทรด
สิ่งนี้จะช่วยลดความกดดันทางด้านจิตใจไปได้เยอะเลย และมันช่วยทำให้คุณเพลิดเพลินกับใช้ชีวิตขณะที่เรียนรู้เครื่องมือในการเทรดไปด้วย มันจะใช้เวลาประมาณ 12-18 เดือน (ถ้าหากคุณเริ่มต้นจากศูนย์) ในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงในการเทรด
3. คุณต้องมีแพชชั่นเกี่ยวกับตลาดทุนและเศรษฐศาสตร์
จริงๆ ผมเคยพูดไว้ในตอนแรกแล้ว เหมือนกับนักเล่นหมากรุก คุณต้องเพลิดเพลินไปกับเกมและเต็มใจที่จะเรียนรู้จากการพ่ายแพ้ก่อนที่คุณจะสนุกไปกับการได้รับชัยชนะ คุณจำเป็นจะต้องเพลิดเพลินไปกับกระบวนการเทรด คุณควรจะมีความสนใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตลาด พฤติกรรมของมัน หรืออะไรที่ทำให้เป็นเทรดเดอร์ที่ดี หรือการเทรดที่ดีจริงๆ ทำอย่างไร
4. คุณจำเป็นต้องโฟกัสไปที่การควบคุมและยอมรับในความเสี่ยงมากกว่าคิดเรื่องของผลตอบแทน
ถ้าหากคุณเตรียมตัวเกี่ยวกับความเสี่ยงอย่างเต็มที่และยอมรับมันก่อนที่คุณจะเข้าไปเทรด คุณจะโฟกัสไปที่กระบวนการเทรดมากขึ้นโดยอัตโนมัติเพราะคุณจะไม่กังวลกับการขาดทุน ยิ่งไปกว่านั้นความมั่นคงทางอารมณ์จะทำให้คุณอยู่ในตลาดได้ไปเรื่อยๆ และทำให้คุณเติบโตขึ้น
5. จงจำไว้ว่าการเทรดเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของชีวิตคุณเท่านั้น
ถ้าหากคุณให้ความสำคัญกับการเทรดมากจนเกินไป คุณจะมีแนวโน้มที่จะมีอารมณ์ร่วมไปกับตลาดโดยอัตโนมัติ จงจำเอาไว้การเทรดมันเป็นรูปแบบหนึ่งของการเดิมพันที่มีความซับซ้อน ในแต่ละการเทรดคุณสามารถเป็นได้ทั้งกำไรและขาดทุน ความได้เปรียบ (edge) ของคุณจะปรากฏขึ้นต่อเมื่อคุณเทรดไปแล้วในจำนวนมากๆ เท่านั้น เพื่อที่จะทำให้คุณเริ่มเห็นคุณค่าในธรรมชาติของความได้เปรียบ คุณต้องมีโฟกัสและยึดติดกับกระบวนการ อยู่กับวิธีการของคุณทั้งช่วงดีและช่วงแย่ บริหารความเสี่ยงและถือสถานะต่อให้ถ้าตลาดมันเข้าทางคุณ การจะทำทั้งหมดนี้ได้คุณจำเป็นจะต้องเลิกคิดเกี่ยวกับผลลัพธ์ให้ได้
เทรดเดอร์จำนวนมากเริ่มต้นที่เป้าหมายทางด้านการเงิน และจากนั้นก็เริ่มที่จะหาหนทางในการเข้าใกล้เป้าหมายโดยการสร้างนิสัยที่มันไม่ได้อยู่บนหลักการที่ถูกต้องหรือธรรมชาติของตลาด
- เทรดเดอร์บางคนอยากทำเงินให้ได้ $500 ต่อวัน ดังนั้นพวกเขาจะพยายาม “เสาะหา” การเทรดอยู่ตลอด
- เทรดเดอร์บางคนมั่นใจมากเกินไปและเริ่มเดิมพันหนักๆ จนเขาผิดหลักการบริหารความเสี่ยงที่ถูกต้อง
การเริ่มต้นจากเป้าหมายทางการเงินจะทำให้คุณล้มเหลว จุดเริ่มต้นที่ดีที่มันเวิร์คสำหรับผมและนักเรียนของผมหลายๆ คนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคือ การคิดว่า จะเล่นเกมอย่างไรให้เราสามารถที่จะอยู่รอดไปได้ตลอด
เมื่อตอนที่ผมเป็นโบรคเกอร์ ผมคุยกับลูกค้ามากกว่าร้อยคนต่อวัน มันใช้เวลาไม่นานเลยที่จะเข้าใจว่ามืออาชีพนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งจากการพูดคุยจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
ลูกค้าของผมที่ไม่ประสบความสำเร็จสนใจแต่เรื่องของผลลัพธ์ในการเทรดของพวกเขา พวกเขามักจะบอกว่า “เทรดนี้แย่จัง” หรือ “ตลาดมันไม่มีเหตุผลเลย” ถ้าหากเขาได้กำไร พวกเขามักจะบอกตัวเองประมาณว่า “เทรดที่ยอดเยี่ยมนี้มาจากฝีมือเรา” เทรดเดอร์พวกนี้สนแต่เรื่องของผลลัพธ์ พวกเขาพลาดกระบวนการเรียนรู้โดยสมบูรณ์ และทำการเทรดตามอารมณ์โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องของความสม่ำเสมอและความยั่งยืนแม้แต่น้อย
ลูกค้าที่ประสบความสำเร็จมักจะคอมเม้นต์เกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาอย่างเช่น “ผมทำตามแผนและตลาดก็เข้าทางพอดี” หรือ “ผมเข้าไปเทรดตามแผน แต่น่าเสียดายที่การเทรดนี้ผมต้องตัดขาดทุน มันไม่ไปไหนและมันก็มีข่าวตามมา” หรืออย่างเช่น “คุณก็รู้ว่าผมทำผิดกฎของตัวเองไม่ยอมตัดขาดทุน แต่โชคดีที่ตลาดดันเหวี่ยงกลับมาแล้วผมสามารถออกจากสถานะโดยไม่ขาดทุน” “วันนี้ผมเทรดอย่างห่วย ผมไม่ยอมทำตามแผนและตลาดก็ลงโทษผมซึ่งก็สมควรแล้วแหละ”
เทรดเดอร์ที่ดีเน้นที่กระบวนการ และใส่ใจกับความสม่ำเสมอและความยั่งยืนเป็นสำคัญ และบางทีมันจะดีกว่าถ้าหากคุณมีวิธีคิดแบบนี้และลืมเรื่องของเงินซะบ้าง
บทความ กับดักความอยากรวย โดย Justin Paolini แปลและสรุปโดย Humble Trader Diary
ฝากกด like กด share หรือ comment เป็นกำลังใจให้ทางเพจด้วยนะครับ
Leave a Reply