บทเรียนจากลูกของพ่อมดตลาดหุ้น : เพราะแบบนี้กฎการขายหุ้นถึงสำคัญ

– บทเรียนจากลูกของพ่อมดตลาดหุ้น แปลและเรียบเรียงโดย Humble Trader Diary –

ตามหลักการนักลงทุนควรมีกฎการขายหุ้น 2 ชุด ชุดแรกใช้สำหรับการล็อคผลกำไรที่ได้ กับอีกชุดหนึ่งใช้ในการป้องกันนักลงทุนจากการขาดทุนหนัก เมื่อหุ้นที่คุณเทรดได้กำไรจำนวนมากหรือขาดทุนจำนวนมาก โอกาสที่อารมณ์ของคุณจะเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจก็มากขึ้นตามไปด้วย มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการมีกฎในการขายถึงสำคัญมาก กฎพวกนี้ช่วยลดการตัดสินใจด้วยอารมณ์และโฟกัสไปที่การกระทำอย่างมีเหตุผล เหมือนกับที่หมอใช้ผลของชาร์ตและเอกซเรย์ในการช่วยยืนยันผลของการรักษาโรค

กฎการขายที่สำคัญที่สุดของพวกเราคือการขายเพื่อรักษาเงินทุนและป้องกันการขาดทุนหนักโดยจำกัดการขาดทุนไม่เกิน 8% ถ้าพวกเราทำการบ้านมาอย่างถูกต้องและเข้าเทรดในจุดที่ถูกต้อง หุ้นของเราไม่ควรจะตกไปถึง 8% ถ้ามันเกิดขึ้นแสดงว่าเราทำอะไรผิดไปหรือเราลงทุนในช่วงที่ตลาดอ่อนแอ อย่างไรก็ตามความผิดเหล่านี้พวกผมจะแก้มันโดยการตัดขาดทุนโดยทันที การ “Cut Loss Short” เป็นการทำให้เราหลุดจากบ่วงกับดักของอีโก้ของตัวเอง “เฮ้ย เราลงทุนในบริษัทที่ดี งบก็ออกมาดี เราทำถูกแล้ว ไม่ต้องขายหรอก เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมา” หรือกับดักของความหวัง “ขอให้หุ้นมันเด้งซักหน่อยเหอะหว่ะ ถึงทุนเลยยิ่งดีจะได้ขายออกไปซักที” ยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนหลายคนมักซื้อถัวเฉลี่ยขาลงแทนที่จะทำตามกฎการขายที่เหมาะสม การเข้าไปถัวหุ้นที่คุณขาดทุนอยู่สามารถทำให้เกิดความหายนะต่อพอร์ตได้เลย การถัวมันสามารถทำให้ทุนเฉลี่ยของหุ้นคุณต่ำกว่าเดิมได้ก็จริง แต่เมื่อหุ้นมันตกใครจะไปรู้ว่ามันจะตกไปอีกไกลแค่ไหน

นักลงทุนหลายคนมีก็มีปัญหากับการจัดการกับหุ้นที่ตัวเองกำไรไม่แพ้คนที่มีปัญหากับการตัดขาดทุน มันเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจำเป็นต้องมีกฎการขายเพื่อที่จะกำหนดว่าเมื่อไหร่ควรจะเทคกำไรออกมา การทำอะไรมั่วๆมันไม่ดีพอหรอกโดยเฉพาะในตลาดหุ้น จากการค้นคว้าของเราหุ้นนำตลาดส่วนใหญ่จะเบรคขึ้นจากฐานราคาประมาณ 20-25% แล้วมีแนวโน้มว่าจะย่อแล้วสร้างฐานใหม่ ดังนั้นกฎของพวกเราคือการขายหุ้นที่ถือเกือบทั้งหมดเมื่อหุ้นขึ้น 20-25% เวลาที่ดีที่สุดที่จะขายหุ้นก็คือช่วงที่หุ้นมันยังขึ้นอยู่ (Sell into strength) ขณะที่หุ้นกำลังขึ้นพวกเราไม่ประมาทและเฝ้าระวังสัญญาณที่เทรนด์ขาขึ้นจะอ่อนแอลงอยู่ตลอด พวกเราไม่รองบการเงินหรือพื้นฐานหุ้นจะแย่ลงเพราะมันเป็นอินดิเคเตอร์ที่ช้าเกินไป แต่จะดูสัญญาณจากนักลงทุนสถาบันผู้ที่มีหุ้นอยู่และกำลังทยอยขายเพื่อทำกำไรออกมา เนื่องจากว่ากองทุนหรือสถาบันนั้นซื้อหุ้นด้วยเงินมหาศาลในการเข้าหุ้นแต่ละตัว พวกเขาจึงไม่สามารถปกปิดสัญญาณการขายซึ่งแสดงออกมาที่ Volume ของกราฟได้ คุณสามารถบอกได้ว่ากองทุนหรือนักลงทุนสถาบันขายหุ้นเมื่อหุ้นตัวนั้นตกลงแล้วมีปริมาณการขายที่มากกว่าค่าเฉลี่ย สัญญาณลบอีกอย่างคือเมื่อหุ้นเบรคทำจุดสูงสุดใหม่ด้วยปริมาณการขายที่น้อยแล้วหุ้นตกกลับมาปิดต่ำกว่าจุดที่เบรคเมื่อจบวัน และอีกจุดที่เป็นสัญญาณที่คุณต้องระวังคือเวลาหุ้นลงมาเบรคแนวรับสำคัญอย่างเช่น เส้นค่าเฉลี่ยหรือเทรนไลน์ขาขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่เคยขายหุ้นเลยถ้าพวกเราไม่ดูกราฟหุ้นก่อน

“จงใส่ใจและสร้างกฎของการขายหุ้นขึ้นมา แล้วคุณจะรอดและประสบความสำเร็จจากตลาดหุ้น

William Scott O’Neil, President of MarketSmith, Son of the investing great Bill O’Neil

ฝากกด like, share หรือ comment เพื่อเป็นกำลังใจให้ทางเพจผลิตผลงานต่อไปด้วยนะครับ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *