ผมเป็นเทรดเดอร์ ไม่ได้เป็นนักวิเคราะห์

– ผมเป็นเทรดเดอร์ ไม่ได้เป็นนักวิเคราะห์ โดย Peter Brandt, Market Wizard –

“A great technical analyst cannot always be a good trader. A good trader is always a good risk manager — it is what makes him/her a good trader. Trading and analysis are two different skill sets. A tiny percentage of traders possess both capabilities.”

– Peter Brandt –

มันมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการเป็นเทรดเดอร์ และการเป็นนักวิเคราะห์ตลาด

นักวิเคราะห์ได้รับเงินจากการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ถ้าอยู่บนพื้นฐานของเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว ผมคงไม่ฉลาดพอที่จะเป็นนักวิเคราะห์ สำหรับเทรดเดอร์ จริงๆ แล้วเขาผลงานได้ดีจากการบริหารความเสี่ยง ซึ่ง skill sets ทั้งสองอย่างนี้มันห่างกันคนละโลกเลย

จากประสบการณ์ของผมแล้ว คนที่พยายามเป็นเทรดเดอร์โดยเน้นแต่เรื่องของการวิเคราะห์มักจะไปได้ไม่ไกล

นักวิเคราะห์ถูกตัดสินว่าผิดพลาดในตอนที่เขาคาดการณ์ตลาดผิด ส่วนเทรดเดอร์นั้น เมื่อเขาทำผิด เขาก็แค่ออกจากสถานะแล้วให้โอกาสที่ดีในครั้งถัดไป จริงๆ แล้ว การเทรดผิดทางเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องเจอสำหรับเทรดเดอร์อยู่แล้ว

นักวิเคราะห์เทคนิคอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อให้ความคิดเห็นของเขาถูกต้อง ซึ่งเขาจะมีชื่อเสียงหรือเงินทองมากขึ้นกับสิ่งนั้น

เทรดเดอร์สร้างผลงานได้จากสิ่งที่เขาทำเวลาที่เขาพบกับการขาดทุน ผลตอบแทนของพวกเขาขึ้นอยู่กับการจัดการการขาดทุนและบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก

เมื่อนักวิเคราะห์เปลี่ยนความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับตลาด เขามักจะเรียกมันว่า “ปรับประมาณการเนื่องจากพื้นฐานเปลี่ยน” เมื่อเทรดเดอร์เปลี่ยนความคิดเห็นของเขา มันจะเรียกว่า “การรักษาเงินต้นและการอยู่รอด”

ผมเป็นนักอ่านกราฟสไตล์คลาสสิค ผมมองกราฟเป็นเครื่องมือในการเทรด ไม่ได้ใช้ในการทำนายราคา

ผมไม่มีความเชื่อเลยซักนิดเดียวว่า ชาร์ตราคาจะสามารถทำนายราคาได้ แต่ผมมีความเชื่อว่า ชาร์ตสามารถใช้ในการหาโอกาสที่คุ้มค่าต่อความเสี่ยงได้ (high potential/low risk trading opportunities) และนั้นคือคุณค่าที่แท้จริงที่ชาร์ตสามารถมอบให้คุณได้

ในความเป็นจริง Chart Pattern ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะ chart pattern ในระยะสั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุทำไมเทรดเดอร์มือสมัครเล่นถึงล้มเหลวในการอ่านชาร์ต และบอกว่าชาร์ตนั้นไร้ประโยชน์

Chart Pattern ในระยะหกเดือนถึงสิบสองเดือนประกอบไปด้วย pattern ระยะสั้นมากมายที่ล้มเหลวรวมกันจนกระทั่งเป็น Chart Pattern ที่พร้อมสำหรับโอกาสในการเก็งกำไรครั้งใหญ่ และนี่คือโอกาสที่ผมมองหา

แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ขาดทุนเป็นจำนวน 65% ของการเทรดทั้งหมด ในบางช่วงของผมตัวเลขอาจจะขึ้นไปสูงถึง 80% ด้วยซ้ำไป เนื่องจากผมขาดทุนบ่อย ผมจึงมักมองหาชาร์ตที่มีรูปแบบที่มอบ risk to reward ที่ สิบต่อหนึ่ง หรือยี่สิบต่อหนึ่งหรือมากกว่านั้น ซึ่งผมเคยทำได้จากการเทรดหุ้น Apple ซึ่งผมทำได้มากถึงเจ็ดสิบต่อหนึ่ง ในตอนนั้นไม่ชัวด้วยซ้ำว่าราคาของ AAPL (Apple) จะเป็นอย่างไรในวันข้างหน้า ผมไม่รู้อนาคต แต่หากผมไม่ยอมเข้าไปเทรดในการเทรดที่มอบ risk to reward มากกขนาดนี้ ผมควรเกษียณจากอาชีพนี้จะดีกว่า

อุปสรรคทางจิตใจหนึ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องก้าวข้ามให้ได้คือ ความคิดที่คิดว่า การเทรดให้ถูกตลอดเวลากับการทำเงินในตลาดนั้นมีความเชื่อมโยงกัน

จริงๆ แล้วทั้งสองสิ่งนั้นไม่ได้เชื่องโยงกันเลย จริงๆ เป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายแนวคิดนี้ให้กับทหารที่ไม่เคยออกรบ แต่สำหรับพวกทหารแถวหน้าที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชนคงเข้าใจดีว่าผมกำลังพูดถึงอะไร

การเทรดคงไม่ใช่เกิดมาเพื่อคุณถ้าความภาคภูมิใจของคุณยึดติดอยู่กับการทำนายราคาขึ้นลงและการถูกผิด

– Peter Brandt, Market Wizard, 45 years of trading experience –

เป็นบทความที่มีความหมิ่นเหม่กับความเชื่อของคนบางกลุ่มเหมือนกัน

แต่ผมคิดว่าเป็นบทความที่ดีพอเอามาแปลสรุป ซึ่งมาจากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยาวนานด้วยครับ

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองก็คิดในมุมใกล้เคียงกัน ว่าจริงๆ แล้วเรื่องของการความสามารถในการวิเคราะห์ มันไม่ใช่ทั้งหมดของการเป็นนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวเลย จริงๆ มันมีองค์ประกอบที่สำคัญกว่านั้นอีกเยอะแต่คนมักไม่ให้ค่าเท่าไหร่ แต่ดัน overrate การวิเคราะห์ถูกผิดซะมากกว่า ผมเชื่อว่าหลายคนก็คิดคล้ายกัน (โดยเฉพาะคนที่อยู่ตลาดมานาน) คือวิเคราะห์ได้แล้ว รู้หมดทุกอย่าง พื้นฐานกิจการ กราฟ แนวรับ แนวต้าน แต่สุดแท้แต่ ก็ไม่สามารถคว้าสิ่งที่เรียกว่า การประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอได้

หลายๆ ครั้งวิเคราะห์ได้ แต่ไม่เทรด วิเคราะห์ได้แต่มีมันน้อยแบบไม่มีนัยยะ วิเคราะห์ได้แต่ไม่มีวินัยพอที่จะถือให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และถึงแม้จะได้กำไรจากเทรดที่วิเคราะห์ได้จริง แต่ก็ไม่มีความสามารถพอที่จะบริหารกับสิ่งที่ตัวเองผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และประสิทธิภาพในการตัดสินใจให้นิ่งได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดและเป็นเวลาที่เราต้องการความนิ่งมากที่สุด เทรดถูกซัก 80% ถูกแปดร้อยครั้ง อีกสองร้อยครั้งผิดทางเราแก้ไขยังไง

อย่างที่ปู่ Brandt บอก คนที่วิเคราะห์ได้อย่างเดียวมักจะไปได้ไม่ไกล

ความรู้เบื้องต้นพวกแนวรับแนวต้าน, indicator, งบการเงินเบื้องต้น หรือ method ต่างๆ เรียนแปปเดียวพอรู้เบื้องต้นอยู่แล้วครับ ใช้เวลาซักสองสามปี คุณพอรู้เรื่องแล้ว น้อยกว่าเวลาเรียนในมหาวิทยาลัยซะอีก แต่ถ้าทำแค่นั้นแล้วมันประสบความสำเร็จจริง จำนวนคนที่อยู่รอดในตลาดหุ้นจริงๆ คงไม่เหลือแค่ 10% ของคนที่เข้ามามั้งครับ

ข้อแนะนำของผม หาอะไรที่ไม่ใช่ method หรืออะไรที่เป็นการ Analysis อ่านบ้าง เรื่องพวกนี้สำคัญจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด แล้วก็ฟังพวกเก๋าๆ เยอะๆ ครับ โดยเฉพาะพวกระดับโลกที่เขาอยู่มานาน

ฝากไว้ประมาณนี้ครับ จริงๆ ผมเขียนยาวกว่านี้ แต่กลัวมันมากเกินไป บ่นเป็นคนแก่เลย ตลาดลง เครียดครับช้ำขาดทุน

โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ