– จะทำอย่างไรให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น โดย Bruce Bower –
บทความรอบนี้มาจากการสรุปเนื้อหาที่ได้ไปเรียนมาและอ่านหนังสือของคุณ Bruce Bower เกี่ยวกับ Making better decisions for trading หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจระหว่างการเทรดครับ ช่วงนี้กำลังอินเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ จริงๆ เนื้อหามันยาวมาก ผมสรุปส่วนหนึ่งมาเอามาให้คนในเพจอ่านกัน คิดว่าเป็นประโยชน์ ลองอ่านกันดูนะครับ
การพัฒนาการตัดสินใจในการเทรดเป็นหัวข้อที่น่าสนใจที่เราควรจะนำมันมาถกกัน
แต่สิ่งแรกที่พวกเราจำเป็นจะต้องเข้าใจก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการตัดสินใจ คือ มนุษย์อย่างพวกเรามันเป็นพวกบ้า ใช่เลย พวกเราทุกคน รวมถึงตัวผมและตัวคุณด้วย พวกเรามักจะแสร้งทำเป็นว่ามีเหตุผลและสามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่เป็นแบบนั้นเลย
ในความเป็นมนุษย์นั้น พวกเราล้วนแต่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากอารมณ์ สัญชาตญาณ นิสัยที่ไร้เหตุผล และปัจจัยภายนอกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น พวกเรามักจะเป็นกังวลอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุน ซึ่งมากกว่าการทำกำไรด้วยซ้ำไป พวกเราให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุด แม้ว่าบางทีมันจะไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นักก็ตามที และพวกเราก็มักจะตัดสินใจอย่างรวดเร็วและคิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แทนที่จะคิดให้ถี่ถ้วนและตัดสินใจอย่างเป็นระบบ
Daniel Kahneman ผู้เขียนหนังสือชั้นยอดอย่าง Thinking, Fast and Slow ได้สรุปงานวิจัย 35 ปีที่แสนยาวนานของเขาเกี่ยวกับการตัดสินใจของมนุษย์ไว้ว่า
“มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสิ่งที่เป็นอัตโนมัติซึ่งเราไม่สามารถควบคุมมันได้เลย และเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
ซึ่งเรื่องเหล่านี้มักทำให้เราหลงผิดหรือทำผิดพลาดในเรื่องของการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจในเรื่องทางการเงินและการเทรด
คำถามก็คือ เราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ?
สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน สิ่งสำคัญของพวกเราคือเข้าใจให้ได้ว่าเป้าหมายของพวกเรามีอยู่ด้วยกันสองเป้าหมาย คือ
1. ตัดสินใจเทรดหรือลงทุนลงทุนที่ได้เปรียบ หรือกำไรคุ้มค่าต่อความเสี่ยง (smart risk/reward)
2. ทำมันให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
เหตุผลที่พวกคุณจำเป็นจะต้องมีวิธีการหรือแนวทางการเทรดเพื่อที่จะได้กรองสิ่งรบกวนออกไป และโฟกัสแต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น ถ้าหากคุณเป็นนักลงทุนระยะยาว คุณไม่ควรที่จะใส่ใจกับเรื่องของรายงานสภาพอากาศล่าสุดหรือแนวรับ-แนวต้านในกราฟเทคนิค ถ้าหากคุณเป็นเทรดเดอร์ระยะสั้น คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องสนใจกับ annual report ของบริษัทให้มันมากเกินไป
อีกเหตุหนึ่งที่คุณจำเป็นจะต้องใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพเพราะพวกมันถูกสร้างขึ้นจากความได้เปรียบในการเทรด (edge) วิธีการต่างๆ ควรจะมีรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และสามารถจะมีพิสูจน์ได้ว่าคุณสามารถทำเงินจากวิธีนั้นได้จริงๆ
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว มันคือการที่คุณซื้อบริษัทและสินทรัพย์ที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน (intrinsic value) สำหรับโมเมนตัมเทรดเดอร์ มันคือการที่คุณตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตลาดและเล่นไปตามความแข็งแกร่งนั้นๆ
ไม่ว่ามันจะเป็นวิธีการเทรดแบบไหนก็ตาม เมื่อคุณได้ครุ่นคิดและวิจัยกลยุทธ์นั้นอย่างดีว่ามันได้ผล สิ่งที่คุณจะต้องทำคือยึดมั่น ปฏิบัติตาม และเก็บเกี่ยวผลกำไรที่เกิดขึ้น
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ได้เขียนมาด้านบนทำให้เกิดคำถามที่สำคัญอย่างหนึ่งขึ้น คือ
จะทำอย่างไรให้เราสามารถที่จะปฏิบัติตามกลยุทธ์ได้อย่างเต็มที่ ทั้งที่พวกเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ที่ขาดความสม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยการกระทำที่ไม่มีสติ และแรงอัตโนมัติที่เหมือนว่าจะนำพาเราไปสู่การขาดทุน?
คำตอบของคำถามนี้คือ เราจะต้องนำวิธีการเทรดทำเป็น checklist ให้ได้
Atul Gawande เจ้าของหนังสือ “The Checklist Manifesto” บอกไว้ว่า Checklist นั้นถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อที่จะทำให้งานที่มีความสลับซับซ้อนแตกออกมาเป็นขั้นตอนที่เข้าใจง่าย และทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถจดจำทุกๆ ขั้นตอนได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
Checklist นั้นถูกใช้กันอย่างมากมายไม่ว่าจะทางด้านการผ่าตัด การบิน และงานก่อสร้าง
แล้วสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนหล่ะ เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ?
บทเรียนแรกคือ พวกเราจะต้องพยายามเปลี่ยนแปลงข้อมูลพื้นฐานของวิธีการเทรดให้อยู่ในรูปแบบของ Checklist ซะก่อน เช่น checklist ที่เราใช้ตรวจสอบก่อนที่เราจะทำการเทรดในแต่ละครั้ง เราควรที่จะแตกวิธีการของเราเป็นชุดของขั้นตอนย่อยๆ แล้วดูว่าแต่ละขั้นตอนนั้น “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” มาตรฐานหรือเป็นไปตามแผนการเทรดที่เราวางไว้หรือไม่ หุ้นที่เรากำลังจะซื้อนั้นผ่านมาตรฐานตามที่เราต้องการหรือไม่ yes or no? จากนั้นคุณก็ค่อยๆ เช็คไปทีละขั้นตอน ตามที่ได้วางไว้ บุคคลตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่นำมันมาใช้ในการเทรดคือ คุณ William J O’Neil ที่ใช้รูปแบบของ Checklist เข้ามาเป็นส่วนประกอบของวิธีการเทรดแบบ CAN-SLIM
บทเรียนที่สองที่เราสามารถเรียนรู้ได้คือ Checklist นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่ และมันไม่ได้เป็นสิ่งขัดขวางให้เราใช้วิจารณญาณและความสร้างสรรค์ในการเทรด จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราแน่ใจว่าเราเทรดหรือลงทุนด้วยวิธีการที่สมเหตุสมผล และไม่ข้ามขั้นตอนที่สำคัญอะไรไป มันช่วยให้เราไม่วอกแวกออกนอกเส้นทางซึ่งทำให้เราหลีกเลี่ยงความไร้เหตุผล อารมณ์ และการขาดวินัยที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด รวมถึงวิธีนี้จะช่วยให้เราสภาวะจิตใจดีขึ้นด้วย
คุณ Roy Baumeister นักวิจัยชื่อดัง สรุปไว้ว่า มนุษย์เรามีพลังงานในการตัดสินใจที่จำกัดในแต่ละวัน และมันจะลดลงไปเรื่อยๆ จนเราสูญเสียความสามารถในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพไป ด้วยการใช้ checklist พวกเราจะตัดสินใจได้อย่างอัตโนมัติผ่านรูปแบบการตัดสินใจที่เรียบง่ายอย่างการตอบคำถามแบบ “Yes” หรือ “No” สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถช่วยรักษา “willpower” ที่มีอยู่อย่างจำกัดของเรา และทำให้เราตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านของ ”คุณภาพ” และ “ปริมาณ” ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกับการตัดสินใจยากๆ เช่นการลงทุนหรือการเทรด
ดังนั้น จงครุ่นคิดและสร้างกลยุทธ์ที่ได้เปรียบ แยกส่วนมันให้เป็นขั้นตอนที่ชัดเจนและเรียบง่ายผ่านการทำ checklist จากนั้นก็ปฏิบัติตามสิ่งที่เขียนไว้ใน checklist อย่างเคร่งครัด จากนั้นวินัยในการเทรดและการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพจะตามมาในที่สุด
บทความ จะทำอย่างไรให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น โดย Bruce Bower แปลและสรุปโดย Humble Trader Diary
ฝากกด like และ share เป็นกำลังใจในการทำบทความต่อไปด้วยนะครับ
Leave a Reply