5 วิธีเอาชนะความกลัวในการเทรดหุ้น

– 5 วิธีเอาชนะความกลัวในการเทรดหุ้น โดย Humble Trader Diary –

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ HUMBLE TRADER BOOK VOLUME 1 : SURVIVING MARKET CRASH สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่นี่ครับ

ความกลัวเป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอเป็นปกติในการเทรดและการลงทุน เพราะเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งเราจะต้องอาศัยคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดได้อย่างสมบูรณ์ 100%

ไม่ว่าจะเป็นการกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ การกลัวที่จะขาดทุน การกลัวที่จะทำผิด การกลัวที่จะขายหมู การกลัวที่จะพลาดโอกาสในการซื้อหุ้นดีและการกลัวที่หุ้นที่เรากำไรจะกลายเป็นหุ้นที่เราขาดทุน สิ่งเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความลังเล ความไม่มั่นใจ และรบกวนกระบวนการตัดสินใจในการเทรด ทำให้เราตัดสินใจไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นบ่อเกิดให้เราไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเทรดในระยะยาว

วันนี้ผมก็เลยเขียนบทความที่สรุปมาจากการอ่านจากหลายๆที่ และประสบการณ์ส่วนตัวของผมมาแชร์ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ได้กล่าวเอาไว้ด้านบนนะครับ

1. คาดการณ์เหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นทั้งหมดก่อนการเทรด

ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะมั่นใจได้อย่าง 100% ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เราก็พอจะคาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดก่อนการเทรดได้ครับ เช่น การที่เราซื้อหุ้นหนึ่งตัวไป สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นต่อไปคือ หุ้นขึ้น หุ้นลงและหุ้นอยู่ที่เดิม เป็นต้น จากนั้นพอเราทราบเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว สิ่งต่อไปที่คุณต้องทำก็คือการวางแผนกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เราได้คาดการณ์ไว้ว่าเราจะทำอะไรบ้าง เช่น

  • เมื่อหุ้นที่เราถือขาดทุนเป็นจำนวน xx% เราจะตัดขาดทุน ขายบางส่วนหรือถัว
  • เมื่อหุ้นเรากำไรถึงระดับที่เหมาะสม เราจะขายทำกำไร ขายบางส่วน ซื้อเพิ่ม หรือถือต่อ
  • เมื่อหุ้นเราไม่ไปไหน เราจะถือต่อ ขายออกมาก่อน ขายบางส่วนหรือรอจนกว่าจะมีตัวที่น่าสนใจแล้วค่อยขายเปลี่ยนตัว
  • เมื่อหุ้นที่เราตัดขาดทุนไปแล้วเด้ง เราจะรอ เข้าใหม่ หรือเข้าบางส่วน
  • เมื่อภาวะตลาดเป็นขาลงหรือเกิดความผัวผวน เราจะอยู่เฉยๆ ขายหุ้นออกมาถือเงินสดเล่นกลยุทธ์อื่น หรือปรับจุดการขายหุ้น

และอย่าลืมคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเกิด worst case scenario เช่น ก่อการร้าย ไฟไหม้โรงงาน ทำให้หุ้นเราลงหนักหรือฟลอร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราก็ต้องมีแผนฉุกเฉิน และคิดถึงการกระจายการลงทุน รวมถึงการกำหนด position ให้เหมาะสมต่อการเทรดเพื่อลดอัตราการเกิด risk of ruin เรื่องพวกนี้ให้เขียนออกมาเป็น action plan นะครับ อย่าคิดไว้ในหัวเพียงอย่างเดียวไม่งั้นประสิทธิภาพจะต่างกันเยอะมากๆ เหตุการณ์เหล่านี้เราสามารถกำหนดการกระทำก่อนที่จะเกิดได้แทบทั้งหมด และเมื่อเรารู้แล้วสิ่งหนึ่งที่มันจะป้องกันได้แน่นอนคือ ความช็อกและความลังเล เพราะเราคาดการณ์และกำหนดการกระทำของเราไว้หมดแล้ว สิ่งที่เหลือก็คือ เล่นเกมตามที่วาง ทำตามแผนให้ได้ซึ่งต้องอาศัยวินัยในตัวเอง ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องฝึกเองนะครับ คนอื่นไม่สามารถช่วยคุณได้

2. เข้าใจสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้

เมื่อคุณเป็นเพียงผู้เล่นตัวเล็กๆ (เหมือนกับตัวผม) ในการเทรดหุ้นนั้นสิ่งที่เราควบคุมได้นั้นมีเพียงไม่กี่อย่าง

  • เมื่อเวลาที่เราจะซื้อหุ้น สิ่งที่เราควบคุมได้นั้นมีเพียง เราจะซื้ออะไร, จำนวนเท่าไหร่ และเมื่อไหร่
  • เมื่อเวลาที่เรามีหุ้นอยู่ในมือ สิ่งที่เราควบคุมได้มีเพียง เราจะขายเมื่อไหร่

นอกจากเรื่องเหล่านี้ มันล้วนจะเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้แทบทั้งหมด เช่น การทำให้หุ้นขึ้นเยอะๆ ทำให้ตลาดโดยรวมเอื้อต่อวิธีที่เราจะเทรด ทำให้บริษัทที่เราถือมียอดขายและกำไรที่มากขึ้นและทำให้เจ้าของบริษัทไม่ขายหุ้นที่ตัวเองถือ เป็นต้น ดังนั้นจะดีกว่ามั้ยที่เราจะใส่ใจเฉพาะกับสิ่งที่เราควบคุมได้ และไม่เอาใจไปผูกติดกับสิ่งที่เราไม่สามารถไปควบคุมได้

มีคนเคยถามคุณ Mark Minervini หนึ่งใน Market Wizards บน Twitter ว่า คุณเคยกลัวกับการถือหุ้นมั้ย โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูงคุณ Minervini ก็ได้ตอบกลับคนที่มาถามว่า

ทำไมผมจะต้องกลัว ทั้งที่ผมวาง Position size, กำหนดจุดตัดขาดทุนและ risk per trade ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงผมจะขาดทุนในครั้งนี้ ผมก็อยู่รอดและทำการเทรดต่อไปได้อยู่ดี เรื่องพวกนี้ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเราเข้าไปเทรดซะอีก

สิ่งที่พ่อมดตลาดหุ้นรายนี้สนใจก็แค่โฟกัสและทำให้ดีที่สุดในเรื่องที่ตัวเองควบคุมได้เท่านั้น ไม่ได้สนสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถหลีกหนีความไม่แน่นอนได้ ก็แค่ต้องทำใจโอบรับความไม่แน่นอนไว้ และโฟกัสแต่สิ่งที่เราควบคุมได้เท่านั้น พอเราสามารถฝึกให้คิดได้แบบนี้แล้วความกลัวในสิ่งที่ไม่แน่นอนที่จะลดลงไปได้เองครับ

3. อย่าให้ความสำคัญกับการถูกผิดมากเกินไป

การกลัวว่าเราจะทำผิดเป็นสิ่งที่เกิดกับทุกคน โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วเราอยากที่จะทำถูกอยู่ตลอดเวลา โดยที่เรื่องนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากระบบการศึกษาของเราที่ให้รางวัลกับเราเมื่อเราทำถูกและลงโทษเมื่อเราทำผิด ซึ่งค่อนข้างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในโลกของการลงทุนและการเก็งกำไร ในโลกของการลงทุนและการเก็งกำไร คุณสามารถที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ถึงแม้ว่าระบบการเทรดของคุณจะทำถูกแค่เพียง 30-50% มีเทรดเดอร์หลายท่านก็มี % win rate ไม่ได้สูงมากนักก็สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ในทางตรงกันข้ามถึงแม้การลงทุนของคุณจะถูกถึง 90% คุณก็สามารถหมดตัวได้จากโลกของการลงทุนเช่นกัน

สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในขนาดที่ยอมรับได้ ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะทำผิด

ก็แค่ยอมรับ ตัดขาดทุนออกมา แล้วเดินหน้าต่อ มองไปที่ภาพใหญ่เข้าไว้ เราสามารถขาดทุนระยะสั้น เพื่อประสบความสำเร็จระยะยาวได้ครับ

“When you learn to cut your losses and “fail” small, you stay in the game. If you get to keep playing, sooner or later you’re going to succeed. The people who lose the game are the ones who rarely fail, but eventually fail so big that they don’t get to play again.”

– Mark Minervini –

“If you can’t take a small loss, sooner or later you will take the mother of all losses.”

– Ed Seykota –

4. การแบ่งการขายเพื่อให้เกิด Win/Win Solution

หลายๆคนน่าจะเคยเจอปัญหาเวลาได้กำไรถึงระดับที่น่าพอใจ แล้วเกิดความกลัวและลังเลว่าจะขายหรือถือหุ้นต่อดี เพราะถ้าเราขายหุ้นไป ก็กลัวเสียดายว่าหุ้นจะขึ้นต่อแล้วพลาดโอกาสทำกำไรก้อนโต หรือถ้าเกิดเรายังถือหุ้นต่อ ก็กลัวว่ากำไรที่มีอยู่จะหดหายไป สิ่งเหล่านี้มักจะทำให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ปวดหัวไม่มากก็น้อย

วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นคือ อย่ามองเรื่องพวกนี้เป็นขาวหรือดำครับ เราไม่จำเป็นต้องตัดสินใจสุดโต่งไปว่าจะขายทั้งหมดหรือถือทั้งหมด แต่เราสามารถเลือกใช้การทยอยขายบางส่วนหรือครึ่งหนึ่งได้ การใช้การทยอยขายมันทำให้เกิด Win/Win solution ขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราถือหุ้นจนมีกำไรในระดับที่พอใจแล้ว ให้เราขายหุ้นไปครึ่งนึงของที่เรามีอยู่เมื่อหุ้นมันยังขึ้นต่อ อย่างน้อยเราก็ยังมีหุ้นอีกครึ่งนึงที่ยังสามารถสร้างกำไรได้ต่อได้ หรือถ้าหุ้นมันลง เราก็ได้ทำกำไรในระดับที่เราพอใจไปแล้วส่วนหนึ่งของที่เราถือ

วิธีการนี้ช่วยลดอาการหัวร้อนของเราได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพและช่วยให้เราคงสภาพจิตใจของเราได้ค่อนข้างดีครับ หลายๆคนอาจจะดีไซด์การเทรดให้ขายหลายๆส่วนก็ได้ตามวิธีที่ตัวเองถนัด เช่น แบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกขายเมื่อได้กำไรตามเป้า ส่วนที่ 2 ขายตาม sell rule ที่ตัวเองกำหนด เช่น การเกิด climax top, stalling action หรือการที่ market condition เปลี่ยน ส่วนที่ 3 ขายตามสัญญาณเทคนิคเช่น ema ระยะสั้น และส่วนที่ 4 กำหนดให้เป็น core position ที่ใช้รันเทรนระยะยาว เป็นต้น เรื่องพวกนี้อยู่ที่วิธีการเทรดและความถนัดของแต่ละคนเลยครับ ลองไปดีไซด์กันดูนะครับ

5. ใช้ตัวช่วยในการเทรด

ปัจจุบันเราค่อนข้างโชคดีกว่าคนที่เขาเทรดสมัยก่อนเยอะครับ เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราตามติดหุ้นได้อย่างใกล้ชิด เราสามารถตั้งการแจ้งเตือนเมื่อหุ้นที่เราสนใจใกล้จุดที่เรากำหนดหรือการตั้งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถขายหุ้นได้ในตามจุดที่เรากำหนด ซึ่งเป็นผลดีต่อคนเทรดที่ไม่ได้มีเวลาเฝ้าจอมาก ทำให้ลดความกังวลลงไปได้เยอะ หรือถ้าใครไม่ถนัดใช้เครื่องมือต่างๆ เราก็สามารถให้ที่ปรึกษาการลงทุนดูแลได้ กำหนดแผนจุดซื้อขายให้เขาส่งคำสั่งแทนให้หรือโทรมาเตือนเราตอนเราไม่ได้ดู เสียค่าคอมให้ผู้ดูแลน่าจะคุ้มกว่าค่าเสียโอกาสกับค่าที่เราขาดทุนนะครับ

หวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านเทรดกันอย่างมั่นใจมากขึ้นนะครับ ขอทิ้งท้ายไปด้วย Quote ของ Michael Jordan นักกีฬาบาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลละกันนะครับ

“I never feared about my skills because I put in the work. Work ethic eliminates fear. So if you put forth the work, what are you fearing? You know what you’re capable of doing and what you’re not.”

– Michael Jeffrey Jordan –

บทความ 5 วิธีเอาชนะความกลัวในการเทรดหุ้น โดย Humble Trader Diary

ฝากกด like กด share หรือ comment เป็นกำลังใจให้เพจทำผลงานต่อไปด้วยนะครับ ถ้า

หากใครยังไม่ได้ดาวโหลดน์หนังสือ ebook HUMBLE TRADER BOOK VOLUME 1 : SURVIVING MARKET CRASH สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีครับ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *